เหลือแต่ซาก
แผ่นดินไหวกับการถล่มพังทลายของอาคาร บ้านเรือน มีคนเจ็บ คนตาย เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้ ก็ด้วยเหตุนี้ จึงต้องมีมาตรการมากมาย ที่จะลดความสูญเสียเหล่านั้นลงด้วยวิธีการสาระพัด เช่น การออกแบบทางวิศวกรรมให้ตึกสามารถทนแรงสั่นสะเทือนจากแ่นดินไหว แรงลม และอื่นๆในระดับที่ปลอดภัย ตามมาด้วยเทคโนโลยีด้านวัสดุ ไม่ว่าจะเป็นเหล็ก คอนกรีต กระจก และอื่นๆ ให้มีมาตรฐานตามที่ต้องการ ในขณะเดียวกัน ก็ควบคุมกันแจ ในเรื่องคุณสมบัติของผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมงานและอื่นๆ เพื่อคำตอบเดียว ทำให้ปลอดภัย
ตึกถล่มลงมาในพริบตา กลายเป็นซากอิฐซากปูนกองทับร่างคนงานฝังพวกเขาทั้งเป็น ทิ้งคำถามคาใจไว้บนซากนั่น ที่ต้องคอยดูว่าจะมีคำตอบออกมาทำนองไหน
แน่นอน ร้อยทั้งร้อยของคนที่เฝ้าจับตาดู ต่างก็มีคำถามว่า ตึกราคาเกือบสามพันล้าน ของหน่วยงานที่ตั้งขึ้นมาตรวจสอบจับผิดคนโกง ที่คอยเกาะกินเงินหลวง ทั้งเรื่องยิบเรื่องย่อยอย่างนมโรงเรียน อาหารกลางวัน ไปยังโครงการของรัฐ แต่กลายเป็นว่า ตึกของหน่วยงานตัวเองกลายเป็นซาก ที่ทำไปทำมาจะดูเหมือนว่ามีกลิ่นเน่าๆโชยออกมา แต่ไม่ใช่กลิ่นซากร่างไร้วิญญานของคนงานที่ถูกฝังใต้กองตึก แต่มันเป็นกลิ่นซากเน่าของหน่วยงานเจ้าของตึก
ความยากเย็นของเรื่องความปลอดภัย มันไม่ได้อยู่ที่ทำให้มีมาตรฐานสูงๆ ใช้เทคโนโลยีล้ำยุค แต่มันยากตรงที่ทำให้สิ่งเหล่านนั้นถูกนำมาใช้จริงๆโดยไม่มีการกัด กร่อน บ่อนเซาะ จากการโกงกิงในแต่ละระดับชั้น และในแต่ละขั้นตอน นี่เป็นความฝันลมๆแล้งๆ ที่ไม่มีทางเป็นจริง
ดีหน่อยก็ตรงที่ยังไม่มีใครหน้าด้านพอที่จะออกมาโยนความผิดให้คนงานที่ผูกเหล็ก เทปูน ตีแบบ ขับเครน ดัดเหล็ก และกวาดพื้นว่าเป็นต้นเหตุของตึกถล่มครั้งนี้ อย่างมากก็แค่บอกว่าตึกมันอยู่ระหว่างก่อสร้าง ปูนยังไม่เซ็ตตัว
ใต้ซากนั่น มีร่างคนงาน อาจจะมีผู้รอดชีวิตที่รอการช่วยเหลือ รอปาฎิหารย์ มีกองคอนกรีต เหล็ก ทับถมราวภูเขาทั้งลูก การเข้าช่วยเหลือไม่ใช่เรื่องง่าย
มีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้ติดตายคาซาก แต่กำลังทุรนทุราย กับสิ่งที่กำลังกดทับสมอง ให้ต้องหาทางหนีทีหลบ ไม่ให้เรื่องถึงตัว ป่านนี้ บ้านหลังใหญ่ รถหรู และเงินทอง เพชรนิลจินดาที่ได้มามันเริ่มส่งกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง จะเงียบ หรือจะออกมาบ่ายเบี่ยงเลี่ยงหลบมันก็ลำบากเพราะซากมันทับกองพะเนิน
หน่วยงานที่ทำหน้าที่สอบสวน อำนวยความยุติธรรมก็อ้ำๆอึ้งๆกันไปหมด ลูบไปตรงไหนก็ปะจมูก โดนปาก ใครต่อใครมากมาย ตอนนี้ ผู้คนก็ขยันเข้าช่วยขุดช่วยคุ้ย ตรงนั้นก็เจอ ตรงนี้ก็น่าจะใช่ ขนาดเก้าอี้หรูที่ซื้อจากอิตาลีก็จังมีคนขุดขึ้นมาถาม สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน เขากำลังทำอะไร
บางคนก็โพล่งออกมาดังๆว่า มันน่าจะถล่มตอนที่พวกนั้นนั่งประชุมกันในตึก บนเก้าอี้หนังวัวราคาเหยียบแสน แล้วค่อยมาช่วยกันขุดพวกนั้นออกมาจากซากตึก
ซากอิฐปูนพวกนี้ แม้จะขนออกไปสร้างตึกใหม่ขึ้นมาแทน แต่มันคงยังเป็นซากเดนในสังคมไทยๆไปอีกชั่วกาลนาน
ขอให้ทุกดวงวิญญานที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ไปสู่สุขคติ 😪
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น