วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

Line of Fire




โบ๊ะ ดึ่ง โบ๊ะ ดึ่ง ดึ่ง โบ๊ะ ดึ่ง โบ๊ะ ดึ่ง โบ๊ะ ดึ่ง ดึ่ง


เปรี้ยงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ว๊าย พี่ ๆๆๆ เป็นอะไร 


เสียงหวีดร้องอย่างตกใจ


ช่วย.....พี่.....ด้วย......พี่.......ถูก......ยีงงงงงงง.......คร่อก




อ่านข่าวนี้แล้ว ผมมีอารมณ์เดียวเลย .... กะลาแลนด์นี่มันจะบ้ากันใหญ่แล้ว.... แห่ขันหมาก...จะปี้ (คำนี้มาจากคำว่า PEE  Personal Erotically Engagement ) กัน....ต้องยิงปืนฉลอง  อะไรของพวกมึงเนี่ย


ในภาษาเซฟตี้ มีคำหนึ่งที่ผม เน้นนักเน้นหนา กับลูกน้องว่าอย่าให้มี นั่นก็คือคำว่า Line of Fire
แปลว่า ทางปืน พวกจบนอก งง เพราะพูดไทยคำอังกฤษคำ เลยแปลไปว่า ควายเข้าแถว


ไลน์ออฟไฟร์  คือสถานการณ์ที่จะได้รับบาดเจ็บได้ จากการที่มีวัตถุ สิ่งของ เคลื่อนที่ เหวี่ยง หล่น ปลิว กระเด็น ดีด พุ่ง ยิง ไปในทิศทางนั้น แล้วมีคนไปขวางทาง อย่างกรณีนี้ ยิงปืน ถ้ายิงขึ้นฟ้า ลูกปืนก็พุ่งขึ้นฟ้า แล้วบังเอิญมีนกอีแร้งชะตาขาดบินผ่านมาพอดี ลูกปืน โบ๊ะเข้าที่ซอกตูด ร่วงผลอยลงมา แบบนี้เขาเรียก ไลน์ออฟไฟร์




อย่างเวลาทำงานกับเครน มีการยกของ แล้วปรากฏว่าสลิงขาด จังหวะเดียวกับที่ซิกแน่นแมน (ออกเสียงแบบสุพรรณเลย) กะลังยืน (ที่สุพรรณ ไม่มีคำว่า กำลัง เราพูดว่า กะลัง) ทำท่าปอบหยิบอยู่ใต้ของที่มันกะลังยก ของที่ร่วงลงมาหล่นตุ๊บบนหัว เละคาที่ แบบนี้ เรียกว่า ไลน์ออฟไฟร์




คุณเชื่อไหมว่า ความเสี่ยงแบบนี้แหละที่คนไทย เจ็บ และตายมากที่สุด เพราะอะไรรู้ไหม คำตอบก็คือ.....แต่น แต้น แต๊น.... สันดานครับ
  
มันมีสันดานสองอย่างที่ทำให้ควายเข้าแถวตายกันบ่อยๆก็คือ


ก. สันดานมักง่าย ฮึ่ย...มึงเชื่อกูดิ  ไม่ต้องหรอก เรื่องมาก ไม่ตรวจอุปกรณ์ ไม่ ไม่ ๆๆๆๆ ที่สำคัญ ไม่มีการกั้นพื้นที่
ข. สันดานดื้อ  เขากั้นไว้ ห้ามเข้า กูก็ปีน




สมัยอยู่สิงค์โปร์ จำได้เลยว่า คนงานไทย พอลงจากรถได้ มันกรูกันลอดรั้ว ̣(Barricade) ที่เขากั้นไว้ มีป้ายห้ามด้วย ลอดกันเป็นฝูง ทั้งหัวหน้า ลูกน้อง ลอดกันใหญ่


ไอ้ที่ลอดเข้าไปนั่นน่ะ เป็นพื้นที่ซึ่งเขากั้นไว้สำหรับงานยกด้วยเครน


ผมเริ่มงานวันแรก พอเห็นบั่กห่านี่ลอดกัน ผมก็เป่านกหวีดประจำกาย แหะๆ ผมไม่ใช่ กปปส. ตอนนั้นยังไม่มีเลย พอเป่านกหวีด ปรี๊ดดดดดด  ก็มีเสียงตอบรับเป็นภาษาไทยว่า กรวยยยยยย




ไลน์ออฟไฟร์ เป็นอุบัติเหตุที่ป้องกันได้ ด้วยวิธีง่ายๆ ก็คือ อย่าให้โดนใคร กันพื้นที่ เวลาเกิดอะไรขึ้นจะได้ไม่มีใครตาย


แต่ในเมืองกะลาแลนด์เนี่ย อุปกรณ์ที่แพงที่สุด คืออะไรรู้ไหม  ป้ายกับรั้วครับ ส่วนใหญ่จะเน้นใช้ ธงราว แบบธงกถินผ้าป่า


ส่วนใหญ่ พวกที่โดนหนีบ โดนกระแทก ก็พวกที่ทำงานนั่นแหละ ประเภท กูต้องยืนใกล้ๆ ถึงจะเท่ห์ เคยเห็นไหม เวลายกของ ไม่ค่อยใช้ แท่กไลน์ (Tag line) กูชอบประคองใกล้ๆ ทำราวกับว่า ถ้าหล่นลงมา กูจะอุ้มไว้


ลองไปดูนะครับ ไอ้ที่โดนของตกใส่ ของกระเด็นใส่ เหวี่ยงใส่ ร้อยทั้งร้อย มันเกิดจากสาเหตุที่เป็น Immediate Cause อยู่สองประการ ก็คือ มีพลังงานที่ปลดปล่อยจากแหล่งพุ่งออกไป และ ข้อสอง ไปขวางทางมัน



ส่วนกรณียิงปืนมั่วซั่ว เพียงเพื่อเฉลิมฉลองว่าเดี๋ยวเถอะมึง กูจะ โบ๊ะ ดึ่ง โบ๊ะ กันแล้ว ผมว่ามันบ้าครับ


ไปดีกว่า ไปรำหน้านาคแล้ว ได้เวลา เข้าหอ ดึ่ง ดึ่ง โบ๊ะ ดึ่ง ดึ่ง












ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ประวัติศาสตร์เซฟตี้

 Abraham Maslow พูดถึงเซฟตี้ไว้เมื่อปี 1943 ว่าลำดับขั้นของความต้องการของคนนั้นมีอยู่เป็นลำดับๆ เริ่มตั้งแต่ความต้องการพื้นฐาน อย่างอาหาร อา...