วันพฤหัสบดีที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2568

ตีความตีคน

ทุจริต ภัย

หมายถึง ภัยที่เกิดจาก คน ประพฤติชั่ว ประพฤติไม่ดี ไม่ซื่อตรง โกง คดโกง ฉ้อโกง โดยใช้อุบายหรือเล่ห์เหลี่ยมหลอกลวงเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ. 



การลงนามอนุมัติให้มีการต่อเติมอาคารโดยไม่ได้มาตรฐาน จนเป็นเหตุให้เกิดการถล่มขึ้น ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งของ การทุจริต 

ทุจริต เมื่อเอามารวมกับคำว่า ภัย ก็น่าจะอ่านได้ว่า ทุ จะ หริด ตะ ภัย กระมัง คำแปลก็น่าจะหมายถึงภัยที่เกิดหรือเป็นผลจากการกระทำทุจริต 

สมัยผมเริ่มทำงานที่โรงไฟฟ้าเอกชนแห่งหนึ่ง ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนผู้ถือหุ้นไปเป็นฝรั่ง ก็ได้พบ ได้เจอ กับภัยที่เกิดจากคนทุจริตหลายกรรม หลายวาระ 

ครั้งแรก ก็เริ่มจากขอให้นำเรื่องการขอซื้อรถดับเพลิงสามคัน เข้าไปให้ฝรั่งเซ็น โดยเสนอส่วนแบ่งให้ สิบเปอร์เซ็น ครั้งนั้นผมก็ปฎิเสธไปพร้อมกับให้เหตุผมว่า ไม่สมควรต้องซื้อรถดับเพลิง เพราะความเสี่ยงจากการเกิดอัคคีภัยของโรงไฟฟ้าแบบโคเจนเนอเรชั่น มันไม่ได้มีอะไรมากมายถึงขั้นต้องประจำการรถดับเพลิง และที่สำคัญ ที่โรงไฟฟ้าตั้งอยู่นั้นก็อยู่ในพื้นที่ของโรงโอเลฟิน ซึ่งมีรถดับเพลิงจอดประจำการอยู่สามสี่คัน เขาคงไม่ปล่อยให้เราไหม้ 

ครั้งที่สอง ขอสร้างระบบบำบัดน้ำเสีย ทั้งๆที่มีโรงบำบัดน้ำเสียที่ครบถ้วนสมบูรณ์อยู่แล้วแต่ไม่ยอมเดินระบบ แต่กลับมาสร้างช่องกักกันน้ำ แบบฝายน้ำล้นซึ่งไม่ได้ช่วยอะไร เสวยงบกับไปอีกเก้าล้านกว่า 

ครั้งที่สาม แอบเอาขี้เถ้าไปทิ้งในหลุมลูกรังเก่าหลังตลาดมาบตาพุด งานนี้ผมไม่สามารถรับได้ แจ้งตำรวจและกรมโรงงานไปตามจับ มีการข่มขู่เอาชีวิตกันเลย เป็นภัยจากคนทุจริตอีกสไตล์

ครั้งที่สี่ แอบปล่อยน้ำที่ไม่บำบัดจากการล้างระบบ (Flush Lines) และน้ำจากกองถ่านหินลงทะเล โดยได้รับความเห็นชอบจากข้าราชการ ครั้งนี้ ผมอาละวาดถามหาผู้อนุมัติ แต่ไม่มีใครรับ 

ครั้งที่หก ตรวจสภาพแวดล้อม ทางทะเลอย่างเดียวใช้เงิน 13 ล้านบาท ผมไม่ยอมเพราะเห็นว่าไม่คุ้มและไม่โปร่งใส จึงเปิดประมูล ได้ผู้รับจ้างไปทำงานตรวจสิ่งแวดล้อมทั้งระบบ และทุกเฟสของโรงไฟฟ้าในเวลานั้น จาก 13 ล้าน ใช้งบไป 8 ล้าน ประหยัดไปสี่ล้าน งานนี้ผู้ใหญ่กริ้วหนัก เพราะไปขัดประโยชน์ภรรยาของท่านเข้าซึ่งปกติ ท่านจะรับไปเหนาะๆ 13 ล้านทุกๆปี เฮ้อ ขอให้ท่านไปสู่สุคตินะครับ ผมจะถวายน้ำทะเลไปให้กิน 

หลังจากนั้นก็ถูกเลิกจ้าง โดยนายจ้างระบุว่า 

ข้อแรก ไม่สนองนโยบายผู้บริหาร 
ข้อสอง ไม่มีผลงาน
ข้อสาม มีปัญหาเรื่องการสื่อสาร
ข้อสี่ มีปัญหาเรื่องทัศนคติ ข้อสุดท้ายนี่ผมยอมรับ ว่ามีทัศนคติที่ผูกใจเจ็บกับทุกคนที่ทำกับผมไว้ ยากที่จะลืมและอโหสิให้ 

ทุจริตภัย มีอยู่ทุกวงการ แต่ถ้ามาอยู่ในวงการเซฟตี้ มันไม่ใช่แค่เกิดอุบัติเหตุ แต่มันยังทำลายสิ่งแวดล้อม แถมขู่ฆ่าเอาชีวิตกันเลยเชียว 

ภัยแบบนี้ ประกันสังคมไม่ครอบคลุม กองทุนเงินทดแทนไม่จ่ายนะจะบอกให้ 


เก้าอี้เทวดา

 

เครดิต ยุคลชนข่าว 

โบราญเขาว่า คนล้มอย่าข้าม หลังจากที่บ้านหลังใหม่ของ สตง.ถล่มครืนเดียวลงไปกองกับพื้น เดือดร้อนกู้ภัยต้องมาช่วยกันรื้อซาก เพื่อกู้ชีวิตคนที่ติดอยู่ข้างล่าง ขุดมาห้าหกวัน ยังไม่เจอคนที่รอดชีวิต ความห่วงใย ความโศกเศร้า หงุดหงิดงุ่นง่านมากขึ้นทับทวี และแล้ว เสียงฮือฮาก็กระหึ่ม เมื่อมีข่าวว่า

ผู้รับเหมาที่สร้างตึก ทำท่าจะเป็นจีนเทา 

การก่อสร้าง ไม่ได้มาตรฐาน 

เหล็กที่ใช้ ไม่ได้มาตรฐาน 

มีการติดสินบนคนของรัฐ

มีการข่มขู่ย้ายรัฐมนตรี

บ้างก็ว่าคนรับเหมาจริงๆเป็นคนที่ใครๆก็รู้ ถ้าบอกก็จะร้องโอ้ว 

จดหมายปลุกขวัญให้สูดลมหายใจลึกๆ จับมือกันเดินไปข้างหน้า 

และแล้ว ข้อมูลเรื่องเก้าอี้เทวดา โซฟา โต๊ะประชุม ฝักบัว สายล้างตูด ราคาแพงระยับ บางอย่างซื้อควายได้สองตัว 

ตึกถล่มทีเดียว เสียวไปทั้งประเทศ คนอยู่คอนโดก็เสียว คนไปติดต่อราชการก็เสียว ไปศาลก็เสียว ไปโรงพยาบาลก็เสียว เพราะไม่รู้ว่าตึกที่กำลังเข้าไปนั้น ใครเป็นคนสร้าง ใช้เหล็กมาตรฐานอะไร ใช้ปูนอะไร ผูกเหล็กยังไง เทปูนแบบไหน หาข้อยุติยากจริงประเทศนี้ 

นี่ถ้าตึกถล่มหนนี้เกิดขึ้นขณะที่ท่านๆกำลัง อะจึ๊ อะจึ๊ยกันบนโซฟาราคาหลายแสน แล้วติดอยู่ใต้ซาก จนกู้ภัยไปลากท่านออกมา มันคงจะทุเรศพิลึก 

สุดตะลึงงงงัน

วันพุธที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2568

มาตรฐานมึงกับกู

 


ระหว่างที่หน่วยกู้ภัยกำลังเร่งรีบรื้อซากปรักหักพังเพื่อค้นหาผู้ติดอยู่ใต้ซากตึก พลันก็มีชายหน้าตี๋คนหนึ่งยืนสะอึกสะอื้นงั่กๆอยู่ในมุมลับตา 

อาตี๋:    โธ่ เตี่ย ไม่น่าเลย ไม่น่าจะมาตายในตึกนั่นเลย อั๊วเคยบอกแล้ว เวรกรรมมีจริง 

เตี่ย:     มึงจะร้องหาเตี่ยมึงเรอะ อั๊วะยังไม่ตาย 

อาตี๋:    อ้าว เตี่ย ยังไม่ตายหรอกรึ อั๊วะคิดว่าแหละไปแล้ว เตี่ยไปหลบที่ไหนมา 

เตี่ย:     เสียงดังหาเตี่ยมึงเรอะ เดี๋ยวพวกนั้นได้ยิน เขากำลังมาเก็บตัวอย่างเหล็กไปตรวจ เขาสงสัยว่า                       เหล็กกับปูนไม่ได้มาตรฐาน

อาตี๋:    ได้มาตรฐานซิเตี่ย อั๊วจ่ายไปกับมือ 

เตี่ย:     มาตรฐาน มอ ออ กอ รึ

อาตี๋:    มาตรฐาน มึงกับกู คับเตี่ย 

เตี่ย:    มาตรฐานเหล็กเส้น SDT แปลว่าอะไรวะอาตี๋ 

อาตี๋:    ก็มาตรฐาน ส้งติงทำ ไงเตี่ย 

เอียงมานานแล้ว

 

ท่านเปา:    เจ้าหน้าที่ มันเกิดอะไรขึ้น เสียงผู้คนเอะอะโวยวายข้างนอกศาลไคฟงของเรา
จั่นเจา:       ใต้เท้า ข้าไปตรวจดูแล้ว ผู้คนวิ่งหนีตายกันอลหม่าน ไปรวมกันอยู่บนถนนข้างหน้าโน่น
ท่านเปา:    พวกเขาหนีอะไรกัน 
จั่นเจา:       แผ่นดินไหวครับใต้เท้า น่าจะเป็นอ๊าฟเตอร์ช็อค พวกเขาบอกว่าศาลเอียง
ท่านเปา:    บังอาจ!!!! ศาลเราไม่ได้เพิ่งเอียง มันเอียงมานานแล้ว 

วันอังคารที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2568

ซาก

 เหลือแต่ซาก


แผ่นดินไหวกับการถล่มพังทลายของอาคาร บ้านเรือน มีคนเจ็บ คนตาย เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้ ก็ด้วยเหตุนี้ จึงต้องมีมาตรการมากมาย ที่จะลดความสูญเสียเหล่านั้นลงด้วยวิธีการสาระพัด เช่น การออกแบบทางวิศวกรรมให้ตึกสามารถทนแรงสั่นสะเทือนจากแ่นดินไหว แรงลม และอื่นๆในระดับที่ปลอดภัย ตามมาด้วยเทคโนโลยีด้านวัสดุ ไม่ว่าจะเป็นเหล็ก คอนกรีต กระจก และอื่นๆ ให้มีมาตรฐานตามที่ต้องการ ในขณะเดียวกัน ก็ควบคุมกันแจ ในเรื่องคุณสมบัติของผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมงานและอื่นๆ เพื่อคำตอบเดียว ทำให้ปลอดภัย 

ตึกถล่มลงมาในพริบตา กลายเป็นซากอิฐซากปูนกองทับร่างคนงานฝังพวกเขาทั้งเป็น ทิ้งคำถามคาใจไว้บนซากนั่น ที่ต้องคอยดูว่าจะมีคำตอบออกมาทำนองไหน 

แน่นอน ร้อยทั้งร้อยของคนที่เฝ้าจับตาดู ต่างก็มีคำถามว่า ตึกราคาเกือบสามพันล้าน ของหน่วยงานที่ตั้งขึ้นมาตรวจสอบจับผิดคนโกง ที่คอยเกาะกินเงินหลวง ทั้งเรื่องยิบเรื่องย่อยอย่างนมโรงเรียน อาหารกลางวัน ไปยังโครงการของรัฐ แต่กลายเป็นว่า ตึกของหน่วยงานตัวเองกลายเป็นซาก ที่ทำไปทำมาจะดูเหมือนว่ามีกลิ่นเน่าๆโชยออกมา แต่ไม่ใช่กลิ่นซากร่างไร้วิญญานของคนงานที่ถูกฝังใต้กองตึก แต่มันเป็นกลิ่นซากเน่าของหน่วยงานเจ้าของตึก 

ความยากเย็นของเรื่องความปลอดภัย มันไม่ได้อยู่ที่ทำให้มีมาตรฐานสูงๆ ใช้เทคโนโลยีล้ำยุค แต่มันยากตรงที่ทำให้สิ่งเหล่านนั้นถูกนำมาใช้จริงๆโดยไม่มีการกัด กร่อน บ่อนเซาะ จากการโกงกิงในแต่ละระดับชั้น และในแต่ละขั้นตอน นี่เป็นความฝันลมๆแล้งๆ ที่ไม่มีทางเป็นจริง

ดีหน่อยก็ตรงที่ยังไม่มีใครหน้าด้านพอที่จะออกมาโยนความผิดให้คนงานที่ผูกเหล็ก เทปูน ตีแบบ ขับเครน ดัดเหล็ก และกวาดพื้นว่าเป็นต้นเหตุของตึกถล่มครั้งนี้ อย่างมากก็แค่บอกว่าตึกมันอยู่ระหว่างก่อสร้าง ปูนยังไม่เซ็ตตัว 

ใต้ซากนั่น มีร่างคนงาน อาจจะมีผู้รอดชีวิตที่รอการช่วยเหลือ รอปาฎิหารย์ มีกองคอนกรีต เหล็ก ทับถมราวภูเขาทั้งลูก การเข้าช่วยเหลือไม่ใช่เรื่องง่าย 

มีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้ติดตายคาซาก แต่กำลังทุรนทุราย กับสิ่งที่กำลังกดทับสมอง ให้ต้องหาทางหนีทีหลบ ไม่ให้เรื่องถึงตัว ป่านนี้ บ้านหลังใหญ่ รถหรู และเงินทอง เพชรนิลจินดาที่ได้มามันเริ่มส่งกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง จะเงียบ หรือจะออกมาบ่ายเบี่ยงเลี่ยงหลบมันก็ลำบากเพราะซากมันทับกองพะเนิน 

หน่วยงานที่ทำหน้าที่สอบสวน อำนวยความยุติธรรมก็อ้ำๆอึ้งๆกันไปหมด ลูบไปตรงไหนก็ปะจมูก โดนปาก ใครต่อใครมากมาย ตอนนี้ ผู้คนก็ขยันเข้าช่วยขุดช่วยคุ้ย ตรงนั้นก็เจอ ตรงนี้ก็น่าจะใช่ ขนาดเก้าอี้หรูที่ซื้อจากอิตาลีก็จังมีคนขุดขึ้นมาถาม สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน เขากำลังทำอะไร

บางคนก็โพล่งออกมาดังๆว่า มันน่าจะถล่มตอนที่พวกนั้นนั่งประชุมกันในตึก บนเก้าอี้หนังวัวราคาเหยียบแสน แล้วค่อยมาช่วยกันขุดพวกนั้นออกมาจากซากตึก 

ซากอิฐปูนพวกนี้ แม้จะขนออกไปสร้างตึกใหม่ขึ้นมาแทน แต่มันคงยังเป็นซากเดนในสังคมไทยๆไปอีกชั่วกาลนาน 

ขอให้ทุกดวงวิญญานที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ไปสู่สุขคติ 😪