มุมฮาภาษาเซฟตี้
Funny Safety Talk
วันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2568
น้ำท่วมปาก
วันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2568
ฮูเร่ วังกา ขอเชิญท่านมานั่งชมลิเก
เห่ สะลัม มานา ละลาล่ะหล่า ลาล้า หล่าลา ละลาละหล่า
ตุ้มปะ ต่มป๊ะ ตุ่มเปง
เมืองไทยวันนี้เละเป็นขี้แช่น้ำ การเมืองก็เน่าสนิทชนิดที่ว่าจะหาทางออกแทบไม่เจอ ต้นปีแผ่นดินไหว ตึกเป็นพันๆไม่ถล่ม ยกเว้นตึกของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน คลอๆไปกับข่าวฮั๊วสอวอ
พอกลางๆปี ไม่มีข่าวอื่นปนเลย มีแต่เรื่องทิดแย้มกับน้องเก็น ตามมาติดๆด้วยข่าวสยิวกิ้วของบรรดาพระที่มีบรรดาศักดิ์สูงๆชั้นเทพชั้นพรหมณ์ที่จูงมือกันขึ้นสวรรค์ไปกับสีกากอล์ฟ งานนี้ขึ้นดาวดึงส์กันไปหลายองค์ จนในที่สุดก็ต้องสึกหาลาเพศไป
และแล้ว นายกของไทยยกหูโทรหาอังเคิ้ลฮุนเซ็น คุยกันแป๊บๆ เป็นเรื่องเลย กลายเป็นการเปิดศึกไทยกำพูเจีย ยิงกันนัว เห็นร่ำๆว่าจะเอารถขี้ไปฉีดถล่มที่ชายแดน งานนี้ทำให้พลโทมาลีดังหาใครเกิน เธอในชุดสีชมพูถ่ายรูปคู่ท่านผู้นำ ก็ดูโอเคนะ แม้จะเป็นภาพเอไอ ขืนยังจ้อไม่เลิกคงมีเวอร์ชั่นเรทสิบหกบวกๆแน่นอน
ตู้ม++++เขย่าขวัญกันด้วยข่าวไฟไหม้โรงงานกระดาษ แป็บนึง ควันก็จาง กลบด้วยข่าวหมอบีและทิดอลงกต
นี่มันยิ่งกว่าลิเกที่ผมเคยดูสมัยเด็กๆ พอออกแขกเสร็จ ก็จะมีตัวแสดงออกมา รำป้อๆ แล้วก็บอกว่า
อันตัวเรานี้ ชื่อว่าพระเจ้า อะไรก็ว่าไป มีพระมเหสีอยู่หนึ่งองค์ ชื่อว่า พระนาง อะไรก็ว่าไป แล้วก็ว่า เรามีเรื่องร้อนใจ เอ้ยร้อนใจด้วยไฟสุม มากลุ้มรุมให้ดวงจิตคิดสับสน ทั้งยามตื่นยามหลับอลวน เหมือนดังโดนยิงถล่มด้วยจรวด ปวดกบาล
เตร้ง เตรง เต่งเต๊ง เตรง เตร่ง เตร้ง เตง เต่ง ไฟไหม้หอยแดงโร่
ลิเกเนี่ยมันสนุก เพราะเรื่องที่เราดู เขาแต่งขึ้นเพื่อการบรรเทิง
แต่การเมืองไทยนี่ มันไม่สนุก เพราะเขาแต่งให้มันไม่สนุก
แต่ไหนแต่ไรแล้ว เราไม่เคยมีรัฐบาลดีๆเลย เข้ามาทีก็ต้องร่วมกันจากพรรคเล็กพรรคน้อย เหมือนหมาจรจัดมาเจอกัน ชามข้าวมันเล็ก มันแบ่งกันกินพักเดียวก็กัดกันเกรียว
แล้วเดี๋ยวก็รัฐประหาร สลับกันไปมา ทหารมา ก็แป๊บเดียว ก็เอาน้องเอาพี่ญาติโกโหติเกมา ทำท่าจะไม่ให้เลือกตั้ง คนก็หงุดหงิด ไม่ใช่อะไรหรอก มันไม่มีจะแดก ทำมาค้าขายก็ไม่ได้ไม่ดี ใครมันจะมาลงทุน กัดกันแบบนี้ เขาก็กลัวพิษหมาบ้า
ไงละมึง ในวัดก็ไม่เหลือพระให้กราบ ในสภาก็กัดกันเละเทะ ศาลเรอะ หวังไม่ได้มานานแล้ว ขอไปกี่ทีกี่ทีก็ถูกกินเรียบ ไอ้ที่จะให้ตรงๆสักสองตัวสามตัว ไม่เคย ทีเครื่องเส้นละจะเอา
ประเทศไหนมันมั่วเหมือนประเทศไทยมีมั้ยเนี่ย
เอ้ยจะต้องเดินทางไป กราบพระอาจารย์เพื่อกลับไป พระนคร แล้วก็รำวนรอบเตียง แป็บเดียวก็ถึงเมืองของเราแล้ว
มั่วแค่ไหน กูดูรู้เรื่องละกัน อย่าคิดว่าเราดูไม่ออกว่าใครกำลังเล่นอะไร
วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2568
นาทีชีวิต
ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและสูญหาย
ความสูญเสีย (Loss)
- เมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้น ทำไมจึงเกิดการลุกลามอย่างรวดเร็ว แทนที่จะมีการระงับเหตุได้ตั้งแต่เพลิงยังมีขนาดเล็กๆ (Incipient Stage)
- มีผู้พบเห็นเหตุการณ์ในขณะที่ไฟเริ่มไหม้หรือเปล่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเวลาทำงาน กลางวันแสกๆ ไม่มีผู้พบเห็นไฟหรือควันเลยหรือ
- หากมีผู้พบเห็น เขาได้แจ้งเหตุเพลิงไหม้อย่างไร บางโรงงาน แม้จะมีขนาดพื้นที่ต่อชั้นมากกว่า 300 ตรม. และมีมากกว่าสองชั้น ก็ไม่มีระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้อัตโนมัติ มีเพียงเครื่องส่งสัญญานแบบมือหมุน หรือว่า
- มีระบบแจ้งเหตุ แล้วมันอยู่ในสภาพที่ใช้การไม่ได้
- หรือระบบแจ้งเหตุทำงานแต่ไม่มีใครเข้าระงับเหตุในช่วงแรก
- หรือระบบดับเพลิงใช้การไม่ได้ ไฟจึงลุกลาม
- แล้วเหตุใดจึงไม่มีการอพยพออกจากอาคาร จนทำให้มีผู้สูญหายและเสียชีวิต
- หรือมีการอพยพ แต่ไม่เป็นระบบ ไม่เป็นไปตามแผนอพยพ
- การเข้าระงับเหตุของหน่วยกู้ภัย มีการแจ้งเหตุและประสานงานอย่างไร เหตุใดจึงมาถึงที่เกิดเหตุในขณะที่ไฟโหมจนเข้าไม่ได้ เพราะโครงสร้างอาคารอาจจะทรุดตัว
ก่อนเกิดเหตุและขณะเกิดเหตุ
- เกิดอะไรขึ้นจนทำให้เกิดการลุกไหม้และไฟลามอย่างรวดเร็ว
- มีงานเชื่อม งานเจียร งานตัดหรืองานที่มีความร้อนหรือไม่
- มีการลัดวงจรไฟฟ้าหรือไม่
- มีการสูบบุหรี่ในพื้นที่ซึ่งมีวัสดุที่เป็นเชื้อเพลิงหรือไม่
วันพุธที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2568
ภาวะไร้อารมย์
ชื่อเจ้าของโมเดลนี้เรียกยากหน่อย แต่เรื่องนี้เข้าใจไม่ยาก มันคือแบบจำลองการไหล (ไม่รู้อะไรไหล)
Csikszentmihalyi's flow model.
โมเดลของลุงฉะซิกฉะเซ็นท์มิหันละยี้ ไงล่่ะมึง แค่ชื่อกูก็เครียดแล้ว แกบอกว่า ไอ้หลานเอ้ย อะไรที่มันทำยากๆ แล้วเราก็ดันไม่เคยซะด้วยเนี่ยมันเครียดนะเว้ยเฮ้ย (High Challenge Level-Low-Skill Level)
ยังไงลุง แกหันมาสบตา ลังเลจะบอกดีไม่บอกดี บอกมาเถอะ ผมไม่เอาไปเล่าต่อ
ก็มีอยู่ครานึง รุ่นพี่พาไปเปิดจุกแถวๆประตูน้ำ ลุงเนี่ยให้ตายเถอะ ไม่เคยเลยเรื่องแบบนี้ อย่างมากก็แค่ช่วยตัวเองในที่ลับตา
มันเป็นความยากขีดสุดสำหรับเด็กหนุ่มบ้านนา ที่ไม่ประสีประสาอะไรเรื่องแบบนั้น พอถูกดันเข้าไปในห้องกับผู้หญิงอ้วนๆลงพุง ที่ไม่นุ่งอะไรเลย มันโคตรเครียด (Anxiety)
ตรงกันข้ามกับสาวใหญ่ที่นอนเปลือยกายรออยู่ เธอดูไร้อารมย์ (Apathy) โดยสิ้นเชิง ก็เพราะว่างานของเธอมันไม่ได้มีความยากและท้าทายสำหรับเธอแล้วแทบไม่ต้องใช้ทักษะอะไรในการทำให้หนุ่มน้อยคนนี้แตกซ่าน
แต่ในสถานการณ์ที่ทำให้ Flow มันอธิบายได้ว่า ความท้าทายกับทักษะที่ต้องใช้มันทำให้เร้าร้อน เอ็งก็มันข้าก็มัน
ลุงแกว่า ทำตาเคลิ้มถึงอดีต การเสียตัวครั้งที่สิบห้ากับสาวหน้าใสพูดไทยไม่ชัดครั้งนั้นมันทำให้แก Flow
อธิบายแบบนี้ เข้าใจทฤษฏีของลุงรึยัง
ทฤษฏีนี้ใช้ทำอะไร คำตอบคือ การใช้คนให้เหมาะกับความยากง่าย และหรือเข้าใจมากขึ้นว่าอะไรทำให้คนบางคนเครียดจนขี้แตก เมื่อเจองานหินที่ตัวเองไม่มีทักษะ ในขณะที่พวกมือโปรเจองานกระจอกก็นั่งกัดเล็บด้วยความเบื่อหน่าย (Boredom)
ความกดดันทางจิตใจ (Psychological Hazards)
ตอนเรียนหนังสือที่โรงเรียนก็ถูกพวกลูกคนรวย อย่างพวกลูกๆเถ้าแก่ในตลาดรังควาน ถูกพวกลูกตำรวจ ลูกครูรังแก ก็เก็บกดไปพอประมาณ
พอเรียนจบเข้าทำงาน ก็ไปเจอหัวหน้า เพื่อนร่วมงานที่เขาจบมหาวิทยาลัยเดียวกัน รวมหัวกันกดดันกลั่นแกล้ง
เขาไม่ยอมส่งมอบงานให้ ในขณะที่เราก็เป็นคนใหม่ เข้าไปในตำแหน่งผู้จัดการแผนก งานเซฟตี้ก็มีคนสูงอายุสองคนทำอยู่ก่อนเรา คนหนึ่งเป็นทหารเรือเก่า ใครๆก็กลัวแกเพราะแกดุ พอถึงวันที่นายใหญ่จะเข้าโรงงาน แกจะเตรียมธงเขียวไปยืนรอที่ประตูทางเข้า ซึ่งเป็นประตูโรงงานโอเลฟิน พอรถมาถึงแกจะโบกธงผึงแล้ววิ่งชูธงนำหน้ารถเหยาะจนรถเข้าโรงไฟฟ้าของเรา ทำแบบนี้เพราะนายเขาไม่ชอบลงไปติดต่อที่ป้อม รปภ.ข้างหน้า และแกก็ไม่เคยติดบัตรพนักงาน
วันหนึ่งมีผู้บริหารแก่ๆมาเยี่ยม บรรดาผู้จัดการเข้ากันหมด ในห้องพวกเขาดูครื้นเครงระหว่างพวกเขา แล้วผู้บริหารท่านก็ถามขึ้นมาว่า กรดซัลฟุริคสองพันกว่ากิโลรั่ว ปั๊มเอย ท่อเอย วาวล์เอยจมใต้กรด ไม่มีใครเห็น มันเป็นเพราะอะไร
หนึ่งในนั้นตอบเสียงดังทีเล่นทีจริงว่า เขื่อนมันสูง เราเดินผ่านแล้วมองไม่เห็น นี่ผมว่าจะเสนอให้ทุบเขื่อนให้เหลือสักห้าสิบเซ็นต์ แล้วเขาก็คุยครื้นเครง จนผู้บริหารท่านนั้นหันมาเห็นผมเข้า พยักหน้าถาม เซฟตี้เมเนเจอร์คนใหม่รึ คุณเห็นอย่างไร
ผมขออนุญาตพูดแล้วก้าวฉับๆไปที่เครื่องฉายแ่นใส วาง Loss Causation Model ของ Frank E.Bird แล้วอธิบาย ผมเสนอว่า สิ่งที่เราควรต้องมีและทำมีหลายอย่าง ได้แก่ มาตรการในการตรวจสอบระบบท่อ Joint Flanges Valves เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มีการผุกร่อนและรั่วไหลขึ้น แถมเสนอมาตรการป้องกันการหกล้น ระหว่างการเติมกรดจากรถบรรทุกสารเคมี แล้วเสริมว่า Secondary Containment ที่มีนั้นดีอยู่แล้วไม่ควรทุบให้เตี้ยลง
แล้วก็มีเสียงสอดขึ้นว่า ทำไมไม่เสนอให้สร้างเขื่อนรอบโรงไฟฟ้าเลยล่ะครับ เวลาอะไรรั่วจะได้ไม่ออกไปข้างนอก แล้วพวกเขาก็ฮาครืน ราวกับผมเป็นโหน่ง เท่งมาเล่นตลกให้ดู
ครั้งนั้นบอกได้เลยว่าเครียดจนเจ็บจี๊ดในอก
คงไม่ใช่ผมคนเดียวที่เจอ พวกเซฟตี้ตัวเล็กตัวน้อยในบริษัทใหญ่บริษัทเล็ก และคนที่ทำงานอื่นๆในที่ต่างๆ ก็ล้วนมีเรื่องที่ทำให้เกิดความเครียดความกดดันกันทั้งนั้น อยู่ที่ว่าใครจะมีน้ำอดน้ำทนแค่ไหน
ในทางวิชาการ เราต้องทำหลายอย่างเพื่อจัดการอันตรายประเภท Psychological Hazards อย่างระมัดระวัง
ขั้นแรก ทำความเข้าใจปัจจัยที่นำมันมา มีอะไรบ้าง อย่างกรณีผม ความไม่ให้เกียรติ และการแสดงออกในลักษณะเหยียดหยามรังแกด้วยความเป็นคนเก่า มีมากกว่า มันกดดัน
บางแห่ง หัวหน้างานเอาเปรียบลูกน้อง อย่างกรณีหัวหน้างานที่ดูแลจัดตารางการเดินรถ ที่จะจัดทริปให้เฉพาะลูกน้องในคอก เพราะใครได้ทริปมากก็มีรายได้มาก ใครไม่เข้าคอกก็ไม่ค่อยได้ทริป แบบนี้ ประยูร เคนเล่าให้ผมฟังพร้อมๆกับน้ำตาคลอเบ้า ความเอาเปรียบและแบ่งพรรคแบ่งพวก
บางทีหัวหน้าหรือผู้จัดการเอาแต่ใจ ใช้อารมย์ก่นด่าหยาบคาย ไม่อธิบายให้ชัดเจนว่าจะเอาอะไร ลูกน้องถามก็ด่าว่าโง่ พอเขาขอคำอธิบายก็หาว่าเถียง
คนงานหัวร้อน ใช้ความรุนแรงกับเพื่อนร่วมงานก็มีให้เห็นมากมาย
ผู้บริหารที่ไม่ใช่ Leader ก็จะไม่เข้าใจ เพราะพวกเขาเป็นแค่ Manager เรื่องละเอียดแบบนี้เขาไม่เข้าใจหรอก
มันต้องเริ่มที่หัว หางจึงกระดิก
เรื่องแบบนี้เวลาป่วย มันออกอาการทางกาย นอนไม่หลับ เครียด บางคนเลยเถิดเป็นโรคซึมเศร้า ทำอะไรที่เราไม่คาดคิดก็มีมากมาย
บริษัทไหนที่เขาให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยและ Well-Being จริงๆ ไม่ใช่แค่ถุยๆตามที่นายฝรั่งเมืองนอกเขาสั่งมา ก็พอจะได้เป็นบุญเป็นกุศลให้คนที่ด้อยกว่า แต่ถ้าแค่ถุยๆ ก็คงจะได้แค่โปสเตอร์สวยๆส่งมาจากเมืองนอก แปลแล้วส่งให้บรรดานายๆเอาปากกาเมจิมาเซ็นรับทราบนโยบาย จบ แบบเครียดๆ ในความฮามันก็มาพร้อมกับความเครียด
วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2568
คุยกับอังเคิ้ล
ใครๆก็มีลุงกันทั้งนั้น คนไทยก็อยู่กับลุงมาตั้งหกปี บางคนก็ได้ลุงส่งเสียจนเรียนจบ แต่บางคนคุยกับลุงแค่ 17 นาที คนทั้งประเทศลุกฮือเรียกร้องให้ลาออก
ไม่รู้จะสงสารหรือสมเพสดี
วันอังคารที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2568
การป้องกันการพังทลายของดินในงานขุด (Cave-In Prevention)
ดินถล่มทับคนงาน ไม่ใช่ว่าในต่างประเทศเขาไม่เคยเกิด แต่พอเกิดขึ้นแล้ว เขาหาทางแก้ไขและป้องกัน
ทางหนึ่งก็ด้วยการออกและบังคับใช้กฏหมายอย่างเข้มงวด ประโยคเมื่อกี้ มีสองคำ คือ ออกกฏหมาย และบังคับใช้อย่างเข้มงวด
ประเทศนี้ล่ะ ออกกฏหมายมั้ย
อย่างน้อยๆ มีกฏกระทรวงสองสามฉบับที่พูดถึงเรื่องนี้ ได้แก่
กฏกระทรวงว่าด้วยเรื่องที่อับอากาศ ที่พูดถึง บ่อ หลุม ว่าเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่อับอากาศ และพูดถึง สภาพอันตรายที่ลูกจ้างอาจจะถูกวัสดุถล่มทับจนจมลงไป นายจ้างบางราย (ที่มีจิตสำนึกก็จะตีความร่องลึก บ่อ หลุม เป็นที่อับอากาศ แล้วกำหนดให้ต้องมีการขออนุญาตกัน) ส่วนนายจ้างที่ไม่มี ก็จะไม่ตีความเอาแบบนั้นเพราะมันยุ่งยากและสิ้นเปลือง
อีกฉบับ ก็เป็นกฏกระทรวงเกี่ยวกับงานก่อสร้าง ที่พูดถึงเรื่องงานเจาะ งานขุด ไว้ในหมวดที่ 2 เนื้อหาในหมวดนี้เขียนไว้หยาบๆ ไล่ไปตั้งแต่ว่า ต้องมีการเคลื่อนย้ายสาธารณูปโภคในละแวกที่จะขุดออกไปก่อนเพื่อกันอันตราย แต่ถ้าย้ายไม่ได้ก็ต้องมีมาตรการป้องกัน
พูดถึงราวกันตก ป้ายเตือนอันตรายและสัญญานแสงสีส้มเห็นได้เวลากลางคืน ถ้ารูหลุมนั้นลูกจ้างอาจจะพลัดตกได้ก็ให้หาอะไรมาปิดเสีย ให้แข็งแรงพอและทำราวกั้น ข้อนี้เป็นมาตรฐานปลายเปิด ตามอัธยาศัยและจิตศรัทธาของผู้ปฏิบัติ เคยมีคนเดินเหยียบแผ่นไม้อัดที่ปิดรูลึกกว่า 5 เมตร หล่นลงไปตายระหว่างวิ่งข้ามถนนลัดเข้าไปในเกาะกลางที่บริษัทโทรคมนาคมทำค้างไว้ แต่เขาไม่ใช่ลูกจ้าง กฏกระทรวงข้อนี้เลยเอาไปใช้ไม่ถนัดนัก
ข้อ 25 และ 26 เนื้อหาค่อยใกล้เคียงมาตรฐานที่ชาติอื่นเขาทำกัน เช่น ต้องจัดให้มีปลอกเหล็ก แผ่นเหล็ก ค้ำยัน หรืออุปกรณ์อื่น กันดินทลาย และต้องให้วิศวกรตรวจสอบ ไอ้ที่จะได้เห็น การ Shoring, Shielding มาตรฐานเรื่องการกองขี้ดิน การตรวจเนื้อดินและออกแบบการขุด ไม่มี บอกแล้วว่ามันเป็นกฏหมายหยาบๆ
ข้อ 28 พูดเรื่องขั้นตอนการลงไปในรูในหลุมที่ลึกเกินกว่า 2 เมตร คล้ายๆเข้าที่อับอากาศ แต่หยาบๆ เน้นให้ผู้ควบคุมงานต้องมีความรู้เรื่องงานดิน และช่วยชีวิต เป่าปากกดหัวใจเป็น เน้นเก็บกู้ซะมากกว่า บอกแล้วว่ากฏหมายหยาบๆ
ข้อ 29 ห้ามลูกจ้างลงหลุมที่กว้างไม่เกิน 75 ซม. ลึกเกินสองเมตร ก็ประมาณความกว้างบุ้งกี๋รถแบคโฮ งานถนัดของการเดินท่อเลย ห้ามได้ไง กฏหมายหยาบๆ
งานขุด Trenching, Excavation ในมาตรฐานประเทศที่เขาเจริญแล้ว ละเอียดกว่านี้มาก เขาพูดถึง
ให้มีผู้ชำนาญการ (Competent Person) ที่รู้เรื่องประเภทของดิน A,B,C,และรู้วิธิป้องกันดินถล่มด้วยเทคนิคต่างๆ เช่น Sloping, Benching, Shoring กันการถล่ม หรือที่เรียกว่า Cave-In ผมเอามาแปะไว้ เผื่อมีใครจะสนใจอ่าน แต่ไม่อยากอ่านก็ไม่เป็นไร ไม่ว่ากัน เอาเป็นว่า ดินขนาดแค่ลูกบาศก์เมตร น้ำหนักก็พอๆกับรถปิกอัพคันหนึ่ง ถ้าถล่มทับใครเข้า ขุดกันนานเลย เซฟตี้เมืองไทย วัฒนธรรมความปลอดภัยแบบไทยๆ บอกตรงๆ หยาบมาก
วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2568
ไม่ต้องหามไกล
ไฟ 22 KV ดูดลูกจ้าง
วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2568
មិនអាចសើចបានទេ
មិនអាចសើចបានទេ ភាសា
จะตีกันทำไม
วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
Distraction
Muffin
ภาพยนต์โฆษณาดีๆ ที่ดูแล้วยิ่งทำให้ต้องมาย้ำเตือนกันถึงเรื่องการใช้โทรศัพท์ ไม่ว่าจะเป็นการโทรเพื่อพูดคุย การแช็ทไลน์ ส่องเฟสบุ๊ค ดูติ๊กต่อก ล้วนแล้วแต่ก่อให้เกิดการเสียสมาธิ ในสามลักษณะ
ทางกายภาพ ต้องเอื้อม ต้องเอี้ยวไปหยิบโทรศัพท์ บางทีก็ละมือจากพวงมาลัย ขับมือเดียว
ต้องละสายตา เพื่อกดหมายเลข ยิ่งแช็ทไลน์ ยิ่งหนักเลย
ต้องคุย ซึ่งเป็นการเสียสมาธิแบบ Cognitive Distraction เคยสังเกตุตัวเองบ้างไหม เวลาคุยสาย ต้องออกท่าออกทาง เดินไปเดินมา เพราะสมาธิมันไปจดจ่อที่การสนทนา
ทั้งหมดนั่น ก็ใช้เวลาไปราวๆ 3 วินาที บางคนนานกว่านั้น
แล้วมันเกิดอะไรขึ้น
วันพุธที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
สุดแสนจะอัพเซ็ท
คนงานตกรูเสาเข็ม
หมวด 2 มาตรการความปลอดภัย ข้อ 10 ให้นำยจ้ำงจัดให้มีสิ่งปิดกั้นที่สำมำรถป้องกันมิให้บุคคลใดเข้ำหรือตกลงไปในที่อับอำกำศ ที่มีลักษณะเป็นช่อง โพรง หลุม ถังเปิด หรือสิ่งอื่นที่มีลักษณะคล้ำยกัน
กฏกระทรวง กำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับที่อับอากาศ พ.ศ. ๒๕๖๒
ชัดเจน ว่านายจ้างไม่ได้ดำเนินการตามที่กฏกระทรวงกำหนด ถือว่านายจ้างรายนี้ละเมิดมาตรา 8 ของ พรบ.ความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน ซึ่งระบุบทลงโทษไว้ตามมาตรา 53 มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 400,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
มิหนำซ้ำ หากพบว่านายจ้าง ไม่ดำเนินการตามมาตรา 14 ของ พรบ. ฉบับเดียวกัน ก็มีโทษปรับอีก 50,000 บาท
และหากปรากฏว่าวานนี้นายจ้างไม่ได้ดำเนินการตามมาตรา 32 นายจ้างผ้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๓ มาตรา ๑๖ หรือมาตรา ๓๒ ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนบรรดาผู้จัดการโครการ หัวหน้าหัวนายทั้งหลายหากพบว่าละเลยไม่ดำเนินการ ก็มีสิทธิ์โดนโทษเท่าๆกับนายจ้าง ตามมาตรา 69
งานนี้ ถ้า กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานขยัน ก็จะพบข้อบกพร่องอีกหลายข้อตาม กฎกระทรวง ๒ มีนาคม ๒๕๖๔ กำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการ ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับงานก่อสร้าง พ.ศ. ๒๕๖๔ อีกหลายมาตราเลยทีเดียว ทำไปทำมาก็จะผิดมาตรา 8 ตาม พรบ.ปี 2554 เข้าอีก ก็จะโดนอีกกระทง เป็นจำคุก 2 ปี ปรับ 800,000 เข้าไปแล้วนั่น
หน้าที่ดำเนินการเอาผิดกับนายจ้าง เป็นของ พนักงานตรวจความปลอดภัย ที่ต้องสอบสวน ถ้าเขาไม่ตรวจไม่สอบ หงุมหงิมงุบงิบ หรือทำท่าขึงขังดึ๋งดั๋งสองสามวัน พอข่าวเงียบ เรื่องก็จบ หรือไม่ก็เลี่ยงไปปรับพอเป็นพิธิ ด้วยมาตรากระจอกๆ อย่าง มาตรา 13 มาตรา 16 พวกนี้
งานนี้ คงมะงุมมะงาหรากันตั้งแต่มาตรา 4 แบบปัดกันไปโยนกันมาว่าลูกจ้างชะตาขาดคนนี้เป็นของใคร เผลอๆ เขาก็ตายเปล่า ตามกฏหมายคุ้มครองแรงงาน กฏหมายกองทุนเงินทดแทนและอื่นๆ จับอะไรดมไม่ได้
เศร้าใจ เสียใจ สลดใจ กับมาตรฐานความปลอดภัยในบ้านเรา คุณว่ามั้ย (ที่ยกมาตรานั้นมาตรานี้มา ผมรับประกันได้พวกคุณไม่เข้าใจหรอก ยังดีใจอยู่บ้างที่เราได้ผู้ว่า กทม.ดี ท่านไม่ละเลย
ส่วนกระทรวงแรงงาน ผมว่าท่านหงุมหงิมมาตลอดตั้งแต่ เหตุซ้ำๆบนพระรามสอง มาถึงตึกถล่มของ สตง.ท่านสงวนท่าทีเกินไปทั้งๆที่เป็นพระเอกได้ แต่ไม่ทำ
วันอังคารที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
วัดเส้าหลิน ถึงวัดไร่ขิง
แฟนพันธุ์แท้วัดไร่ขิงคงบ่นกันระงม
ใครที่ตามข่าวทิดแย้มกับโยมสาวหมวย สวยอึ๋ม (คำนี้ผมเอามาจากคำสัมภาษณ์ของอดีตศิษย์วัดท่านหนึ่ง) คงอิดหนาระอาใจ นึกไม่ถึงว่า สมภารที่ธาตุไฟแตก จะกลายจากจอมยุทธุ์ผู้เข้มขลัง มีพลังภายในชนิดที่แค่ปล่อยลมออกมาจากนิ้ว ใบไม้ย่อมสั่นไหวปลิดปลิว ไม่ถึงกับต้องระบายลมปรานออกมาดังป๊าด เหล่ามารร้ายก็ด่าวดิ้น
แต่ด้วยเหตุอันใดที่ยังไม่ทราบได้ ทำให้กลายเป็นมาร บิดเบือนคำสอน เรื่องอนัตตา การเกิดขึ้นตั้งอยู่และแตกดับ กลายเป็น เปิดขึ้น ตั้งโด่ และดับไฟ จากครั้งแรก เป็นครั้งที่สองสามสี่ ถี่ขึ้นเรื่อยๆ จากไม่กี่สิบล้าน กลายเป็น เจ็ดแปดร้อยล้าน
ถ้าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นที่วัดเส้าหลิน ผู้นั้นคงถูกเอาไปขังในแชมเบอร์ที่สามสิบแปด ให้นั่งกำหนดสมาธิควบคุมความพลุ่งพล่าน ท่ามกลางเครื่องกลที่กระทุ้งเข้าใส่ทั้งข้างบน ข้างล่าง ข้างหน้า ข้างหลัง หากวิทยายุทธ์ที่เคยมีมันหยดแย้มไปเสียสิ้นเนื่องจากกิเลสทั้งปวง เมื่อนั้นทิดแย้มคงไม่สามารถจะออกจากช่องที่สามสิบแปดมาได้
แต่ถ้าบาปเคราะห์หนนี้ เป็นเพียงแค่ถูกนางมารสบู่นกแก้วปล่อยพิษผ่านไลน์โดยที่พี่ทิดมัวแต่ตะลึงงันกับเสียงน้ำไหลรินๆ และนางมารสาวทำเสียงกระเส่า แย้มขา แย้มขา พี่ทิดคงไม่พ้นต้องพิษเข้าเส้นเลือด
การสอบเค้นทรมานจากสำนักเส้าหลิน คงเป็นเพียงแค่การซักฟอกเอาคราบฉาวออกไป ไม่นานพลังยุทธ์ก็จะคืนมา ไอ้ที่เคยตั้งโด่แล้วดับไฟก็จะกลับมาเข้าร่องเข้ารอย
อมิตาพุด อายีด่าฝัก อายีด่าฝัก




