วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2561

มะ มาให้พี่ดูดซะโดยดี


คอการเมืองอย่างผม ไปไหน ต้องมีมือถือติดมือไปด้วย เดี๋ยวนี้มือถือดูทีวีได้หมดแล้ว บังเอิญวันนั้นปิดไม่ทัน เพราะมัวแต่สาละวนกับการดูด นายกออกมาพูด ได้ยินแว่วๆ จับต้นชนปลายได้ว่า การดูด เป็นธรรมนองคลองธรรมของระบอบประชาธิปไตย

ภาษาเซฟตี้ มีอันตรายจากแรงดูดอยู่เหมือนกัน เลยอยากเอามาเล่ามาเตือนกัน กลัวลืม ตอนนี้ เห็นปรากฏการณ์ของการไล่ดูด ส.ส. มีทั้งพวกอยากโดนดูดใจจะขาด และพวกที่ออกมาโวยว่าพรรคของตัวเองกำลังถูกดูด



























ใครจะไปนึกว่าถังใบบะเริ่ม จะถูกดูดยุบวาบราวกับกระป๋องน้ำอัดลมเปล่าถูกบีบ ไม่น่าเป็นไปได้ว่าแรงดูดจากปั๊มตัวกะเปี๊ยกจะสร้างความบรรลัยได้ถึงปานนั้น

ถังใบนี้ อยู่ระหว่างการซ่อมแซม ช่างมันลืมเอาพลาสติคที่ปิดรูหายใจ ที่ภาษาเซฟตี้เรียกว่า Atmospheric Vent Valve ออก ปิดไว้กันผงกันฝุ่น หวังดี พองานเสร็จ เดินเครื่อง เดินปั๊ม ถังยุบแป่บ


หลักทางฟิสิกส์ บอกว่า

แรง แปรผันตรงกับความดันและพื้นที่ หรือสูตรคำนวณหาแรงก็คือ

Force = Pressure x Area

 
สูตรนี้ ไม่ได้ใช้เฉพาะเรื่อง แรงดูดอย่างเดียว แรงดันก็เหมือนกัน
สมมุติว่า ในถังใบนี้ มีความดันที่  10 psi บนพื้นที่ผิวขนาด 12นิ้ว x 12 นิ้ว

จะพบว่า มีแรงกระทำต่อผนังของถังถึง 1440 ปอนด์ เลยทีเดียว
ดังนั้น ไอ้ประเภท ไม่ยอมระบายแรงดันที่คาถังออกก่อน แล้วถอดน็อตรอบแมนโฮล ระวังเถอะ พอน็อตหลุดออกหมด ฝาแมนโฮลหลุดผึงราวกับมีใครถีบออกมา ไอ้ที่บอกว่า หึย ฝาหนักขนาดนี้ มันจะหลุดออกมาเองได้ยังไง
แนะนำให้เอาหน้าไปรอไว้เลย เดี๋ยวรู้ 

อย่างกรณีนี้ ฝาถังไซโลปูน หลุดผึงปลิวมาตกหน้ารถคนดวงแข็ง ต่อหน้าต่อตา รถราเบรกกันฝุ่นตลบ คิดว่ายานอวกาศที่บิ๊กตือไปซื้อมือสองมาจากจีนเกิดตกกลางถนน กร๊ากๆๆๆ

ลองสอบดูดีๆ ถ้าไม่มีเพรสเชอร์จากลมอัดเข้าไปเพื่อทำอะไรสักอย่าง ผมว่ามันต้องเกิดจากเจ้าที่เจ้าทางแน่นอน ไม่มีเหตุอื่น  เอาแค่แรงดัน 10 psi เป่าปูนเข้าไซโล บวกกับไอ้ชุ่ย ไม่ใส่น๊อตให้ครบ เปรี้ยง โครม ครืดๆๆๆๆ


 

กลับมาที่เรื่องดูดดีกว่า เรื่องแอบดูดขี้ในบ่อเพื่อนนี่ ถ้าดูดไม่ดี เผลอไผลไปสร้างบรรยากาศที่ติดลบ คือรูหายใจมันอุดตัน แรงดันข้างในเป็นลบไปนิดเดียว แรงกดอากาศมหาศาลจะดันให้ผนังของถังใบนี้ยุบได้ภายพริบตา

ผมไปเจอการทดสอบการยุบตัวของถังคาร์โก้ เป็นเอกสารในเวปไซท์ ใครใคร่อ่านก็คลิกไป

Cargo Tank Suck In


ฟิสิกส์ ของแรง อย่างข้างบนนั่น ก็เพื่อจะอธิบายว่า แรงที่เกิดขึ้น บนพื้นที่หน้าตัด มหาศาลเพียงไหน

ยังมีกฎของบอยลส์ ที่บอกว่า

แรงดันที่เกิดขึ้นบนพื้นผิวของถัง จะยังคงเป็นเช่นเดิน ตราบใดที่ปริมาตรของอากาศในถังยังเป็นดั่งเดิม ฟังดูเหมือนสุภาษิตขงตื้อ ตื้ออยากเป็นนายก ทำยังไงก็ได้ให้ฉันได้เป็นนายก

p1v1 = p2v2

 
สมมุติว่า ถังใบนี้ มีไอระเหยอยู่ข้างใน 60 แกลลอน ที่ความดันบรรยากาศ ปกติ 14.7 psi แล้วจัดการดูดไอนั่นออกมา 100 แกลลอน โดยปิดรูระบายไว้อย่างแน่นหนา (แบบใช้มาตรา 44 ห้ามโน่นนี่นั่นไว้เสียทั้งหมด ห้ามหายใจ เข้า ออก ห้ามตด ) แรงดันที่เกิดขึ้น หรือ p2 จะได้เท่ากับ การย้ายข้างสลับขั้ว
 

p2 = p1xv1 หารด้วย v2

p2 = 14.7 x 60 หารด้วย 160 ได้ออกมาเท่ากับ 5.5
 
เพราะฉะนั้น หลังจากการดูดไปแล้ว แรงดันในถัง จะ เท่ากับ 5.5 -14.7 = -9.2 psi
 
 
เห็นยัง ดูดไม่ดูตาม้าตาเรือ อุดรูหายใจไว้หมด เห็นยัง เพรสเชอร์ติดลบ ไอ้ฟาย ฮึ่ย
 
 
อ่ะ ทีนี้มาดู ไอ้ประเภท สร้างบรรยากาศร้อนระอุ แถมอุดรูไว้หมด ไม่ให้ได้หายใจหายคอ
 
สูตรคำนวณ เรื่อง ไอดีลแก็ส
 
 

p1/T1 =p2/T2 


ประมาณว่าหยั่งงี้คือ เอาเครื่องพ่นล้างด้วยไอน้ำ ไปล้างๆ ๆๆๆๆๆๆ จนข้างในร้อนระอุไป 200 องศาฟาเรนไฮต์ หรือ 660 เควิน ปิดรูระบาย รูหายใจ ปิดให้หมด แล้วให้ไปนั่งดูละครแม่การะเกด จนถังเย็นลงเหลือ 30 องศาฟาเรนไฮต์ หรือ 490 เควิน ทีนี่มาดูค่าความดันในประเทศ p2 = p1 x T2/T1 อ่ะ แทนค่าในสูตร
 
จะเห็นว่า แรงดัน p2 =  14.7 x 490 / 660 = 10.9 psi
 
แรงดันที่แตกต่าง = 10.9-14.7 = 3.8 psi เชียวนะมึง
 
แล้วทีนี้ เอาไปคูณกับพื้นที่ผิวดูทีรึ เป็นไง เห็นรึยัง ว่าแรงที่กดทับลงไปทุกหัวระแหง มันมากมายมหาศาลขนาดไหน ไอ้ฟาย ทำอะไร คิดซะมั่ง ฮึ่ย เห็นแล้วหงุดหงิด
 
 

ระวังเถอะ ดูดส่มสี่สุ่มห้า ถังขี้แตกขึ้นมา จะเหม็นกันไปหมดนะจะบอกให้

 

วันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2561

บุพเพอาละวาด EP.109 ชีวิตบัดซบของไอ้จ้อย

 
 

ความเดิมตอนที่แล้ว

ครั้นกรุงศรีอยุธยา ได้เจริญสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศส ได้เพียงไม่กี่ปี อะไรๆก็เปลี่ยนแปลงไปหมด บรรดาขุนนางและเสนาบดีทั้งหลาย หันไปเปิดโรงงาน เลย์ออฟเหล่าไพร่ทาสเสียหมดสิ้น
 
ไอ้จ้อยและนางปริก สองสามีภรรยา ต้องตกอับไร้ที่พึ่งพา ยายปริกเอง พอหารายได้จากการทำหมูโสร่งเร่ขายตามหน้าโรงงาน ส่วนไอ้จ้อย ได้งานเป็นช่างเชื่อม ในโรงงานแห่งหนึ่งย่านนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ
 
บ่ายคล้อย ไอ้จ้อยเดินหน้าม้านกลับเข้าเพิงกระต๊อบ นังปริกเห็นผัวหนุ่มเดินหน้าละห้อยเข้ามาจึงมิวายตะวาดถามไปด้วยความเสน่หา
 
นางปริก : มึงเป็นเช่นไรมารึ ไอ้จ้อย เหตุฉันใดจึงทำหน้าประหนึ่งหมาเป็นไข้หวัดมาเช่นนั้น
ไอ้จ้อย : โธ่ แม่ปริก เมื่อไหร่จะเรียกฉันว่า คุณพี่เสียทีเล่า เมื่อแรกก่อนได้ฉันเป็นผัว ก็ยังเรียกขานฉันว่าคุณพี่
นางปริก : ปัดโธ่ ไอ้นี่ มึงต่างหาก เจตนาจะมุดมุ้งอีบุ้ง แต่ดันมาพลาดโดนข้าเข้า ยังจะมาทวงถาม ไอ้นี่ เดี๋ยวเขวี้ยงด้วยครก
 
ว่าแล้วนางปริก เงื้อสากกะเบือ เขวี้ยงหวือ เฉียดหัวไอ้จ้อย ไปโดนฝาจากกระเด็นกระจาย เป็นรูโหว่ ไอ้จ้อย เงียบปากไปโดยพลัน
 
มันหยิบรูปถ่ายออกมาวางไว้ตรงหน้านางปริก ไม่กล่าวอันใดอีก
 
 
นางปริก หยิบรูปนี้ขึ้นดู ร้องอุทาน ว้าย แม่หก ตกกะได นี่รูปใครกันรือ ไอ้จ้อย ยังหวาดๆ สากกะเบือบินไปแล้ว แต่ครกหินยังอยู่ใกล้มือนางปริก ปากร้าย ตั้งแต่ ถูกเฉดหัวออกมาจากเรือนคุณหญิงและท่านออกญา แม่ปริก เปลี่ยนเป็นคนโหดร้ายเสียยิ่งกว่าแม่หญิงการะเกดหลายเท่านัก
 
ไอ้จ้อย : ก็รูปที่พวกฝรั่งมันเอามาให้ข้าและกรรมกรดู มันบอกว่า ไอ้ใบเจียร์ ใบตัดที่พวกข้าใช้กันทุกๆวันนั้น ยามที่มันแตก มันจะปลิวกระเด็น บางทีมันก็สะบัด หลุดมือ บาดเข้าที่หลังมือหลังตีน ได้เลือด บ้างถึงตาย ข้ารึก็หวั่นๆอยู่ว่า หากโดนเข้ากับตัว แม่ปริกของฉันจะอยู่เช่นไร
 
นางปริก : กูว่าแล้วเชียว ไอ้พวกฝรั่ง มันเอาเครื่องมืออะไรมา สมัยก่อนพ่อแม่แกูไม่เห็นจะมีเครื่องพวกนี้อะไรเลย นี่เป็นความผิดของ ไอ้ฝรั่งตาน้ำข้าวนั่นแท้ๆเชียว
 
ท่าทีนางปริกสงบลงมาก บ่นพึมๆ มันเป็นขนาดนั้นเทียวรือไอ้จ้อย สายตาอ่อนโยนลงอย่างเห็นได้ชัด ไอ้จ้อยหย่อนตูดลงบนแคร่ ใกล้ๆ แต่ยังระแวดระวังหลังตีนอยู่ดังเดิม
 
 
ไอ้จ้อย : คนอย่างพวกเรานั้น มันสอนยากสอนเย็นนักแม่ปริก  ข้าเองพอจะมีความรู้มาบ้างว่า ไอ้เครื่องมือพวกนี้ ฝรั่ง เขาเรียก พาวเวอร์เร็ด แฮนด์ ทูลส์ (Powered Hand Tools) มันมีอันตรายอยู่หลายอย่างนัก
 
ว่าแล้ว ไอ้จ้อย ฉวยเอากระดานชนวนมาวาด นางปริก ละมือจากหมูโสร่ง ชะโงกหน้าเข้ามาใกล้ มองลงไปที่รูปข้างล่างนั่น ท่าทางมิผิด เมื่อครั้งอยู่ด้วยกับนางจวง ที่หนีตามแขกขายผ้าไปเมื่อปีกลาย
 
อันตรายจากของพรรค์นี้ มีหลายแบบหนาแม่ปริก ไอ้จ้อยเริ่มสาธยาย
 
อันตรายแรก ก็ได้แก่ อันตรายรอบๆ โซนที่หนึ่ง ได้แก่ อันตรายที่เกิดจากการประกอบ ใบเข้าไปกับเครื่อง
 
  1. ใช้ใบผิดประเภท เอาไบตัดไปทำงานขัด เอาไปเจียร์ไปทำงานตัด แบบนี้แหละ ที่พวกข้า ทำกันอยู่เนืองๆเชียว
  2. ใช้สิ่งที่มันไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้กับเครื่องพวกนี้ ใส่เข้าไป อย่างพวกใบเลื่อยกลมๆนั่น ชอบใช้กันหนักหนาเชียว
  3. ใช้ใบไม่ถูกกับวัสดุที่จะตัดจะเจียร์ อย่างเอาใบที่ใช้งานกับเหล็ก ไปใช้กับไม้ ใช้กับปูน แบบนี้ ก็บ่อยเลยแม่ปริกเอ้ย
  4. ใช้ใบที่มันขนาดไม่เหมาะกับเครื่อง เล็กไปมั่ง ใหญ่ไปมั่ง
  5. ใช้ใบที่รับความเร็วรอบของเครื่องไม่ไหว แหะๆ จริงๆแล้ว พวกข้านั้น ไม่เคยจะได้แหกตาดูหรอกว่า ใบที่ใช้ มีความเร็วที่เรียกว่า Maximum Permissible Speed เท่าไหร่ แหม ก็ใครมันจะอ่านออกเล่านังปริกเอ้ย
นางปริก มองดูไอ้จ้อย ด้วยสายตาชื่นชม มินึกฝันว่า ผัวกูจะมีภูมิรู้มากมาย จากการได้เป็นกรรมกรในโรงงานของท่านหมื่นเรือง กับแม่หญิงจันทร์วาด
ใจหนึ่งก็ พรั่นพรึงนัก ว่าของพวกนี้มันช่างอันตรายเหลือเกิน
 
ไอ้จ้อย รู้ทัน เอ่ยปากว่า ข้ารู้นะว่าแม่หญิงปริก เป็นห่วงข้านัก ว่าแล้วมันก็ครวญเพลง ออ เจ้า เอย ... สองคนผัวเมียพากันจูงมือหายไปในกระท่อม พักหนึ่ง ก็มีเสียงโหยหวนของนางปริก ออกมา ว่า อออออออ อือ ออออออ อือ
 
จบดีกว่า อิอิ
 



ประวัติศาสตร์เซฟตี้

 Abraham Maslow พูดถึงเซฟตี้ไว้เมื่อปี 1943 ว่าลำดับขั้นของความต้องการของคนนั้นมีอยู่เป็นลำดับๆ เริ่มตั้งแต่ความต้องการพื้นฐาน อย่างอาหาร อา...