วันอังคารที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2559

เข้า บ่ เถิง เขา บ่ให่ เข่า

ในทุกๆการฝึกอบรมด้านความปลอดภัย น้อยนักที่จะได้เห็น คนสวน แม่บ้าน รปภ.มีโอกาสได้เข้ารับการฝึกอบรมกับเขาบ้าง กิจกรรมต่างๆมักจะจำกัดอยู่เฉพาะในกลุ่มพนักงานประจำที่เป็นฝ่ายผลิต ฝ่ายธุระการ ฝ่ายซ่อมบำรุงและผู้รับเหมาที่ทำงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการผลิต มาตรการต่างๆด้านความปลอดภัย เช่น ประชุมกลุ่มย่อย ระบบขออนุญาตทำงาน อุปกรณ์ป้องกันอันตรายและอื่นๆ ก็หาได้เข้าถึงพวกเขาไม่... ที่แย่ที่สุดก็คือ ไม่มีหน่วยงานไหนที่จะบอกได้เต็มปากเต็มคำว่า พวกเขาอยู่ใต้สังกัด เขาจึงอยู่ในกลุ่มที่จะบอกเราว่า เข้า บ่ เถิงดอก เขาบ่ให้เข้า



จึงเป็นเรื่องธรรมดามากที่จะเห็นคนตัดหญ้าเข็นเครื่องตัดหญ้าโกโรโกโสไปที่ห้องซ่อมบำรุง ขอยืมประแจที่ห้องช่าง ถอดใบมีดออกมาลับเอง  หรือไปขอยืมบันไดปีนตัดต้นไม้ ... ดีร้ายก็ถูกตะเพิดให้เอาไปซ่อมที่อื่น หรือดีหน่อยก็ได้รับการช่วยเหลือเอื้อเฟื้อจากช่างใจดี  คนพวกนี้ไม่อยู่ในเรดาร์ของการบริหารจัดการ บางคนก็ไม่ใช่พนักงานบริษัทโดยตรงแต่เป็นคนงานที่จ้างผ่านบริษัทหัวคิวอีกต่อหนึ่ง เครื่องไม้เครื่องมือก็หามาเอง เสียก็ซ่อมเอง ทำงานก็ทำเอง น้อยครั้งนักที่จะมีใครไปกำกับดูแล โดยรวมก็คือ อยู่ตามมีตามเกิด อย่างกรณีคนสวนถูกใบมีดของเครื่องตัดหญ้าบาดระหว่างที่เขาพยายามใส่ใบมีดที่เพิ่งถูกลับมาคมกริบ เหตุเกิดเพราะประแจแหวนมันไม่ลงล็อค หัวน๊อตมันใกล้กันและประแจทำมุมไม่ดี พอออกแรงดัน ประแจหลุดจากหัวน๊อต นิ้วหัวแม่มือก็กระแทกเข้ากับคมใบมีดเลือดอาบ

เมื่อไม่นานมานี้ คนงานเช็ดกระจกที่อยู่บนนั่งร้านแบบกระเช้า ตกลงมาตายคาที่สามศพเพราะสายสลิงขาด ก็อีหรอบเดียวกัน ช่างแอร์ถูกไฟดูด ขณะเข้าบริการล้างแอร์ที่กันสาดอาคารสำนักงานแห่งหนึ่ง ถามเข้าก็ไม่รู้ว่างานนี้ใครดูแล ซ่อมบำรุง หรือฝ่ายธุระการ


ระบบต่างๆที่เกี่ยวกับความปลอดภัย เช่น ต้องใช้ถุงมือหรืออุปกรณ์อะไร ต้องขออนุญาตไหม ต้องกั้นพื้นที่ ต้องติดป้ายเตือน ต้องตัดไฟไหม จิปาถะจะถูกบายพาสหมดสิ้น เพราะไม่มีเจ้าภาพดูแล บางทีสายงานและความรับผิดชอบที่กำหนดไว้ก็ไม่ชัดเจน คนทำก็งง คนคุมก็มึน
มีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่เข้ามารับจ้างรายวันในโรงงานอุตสาหกรรม เช่นคัดแยกเศษไม้ กระดาษ ถังสารเคมี ที่อาจจะต้องเสี่ยงกับตะปู สารเคมี ฝุ่นผง ขอบคมของปี๊บ ถัง และอะไรอีกมากมาย  เชื่อไหมว่าพวกเขามือเปล่า บางคนรองเท้าขาดหัวแม่ตีนโผล่ ถามเข้าก็งง บอกแค่ว่า เถ้าแก่ให้มาแบบเนี๊ย
รปภ. เป็นคนอีกกลุ่มหนึ่งที่อยู่ในแดนสนธยา นัยหนึ่งก็เหมือนจะมีอำนาจในการขอดูบัตร ขอตรวจค้น และคัดกรองคนเข้า คนออก แต่เอาเข้าจริง กิจวัตรประจำวันของพวกเขาก็จำกัดอยู่แค่ ยืนตะเบะรถที่ผ่านเข้าออก อาจจะขอเปิดท้ายบ้างเล็กน้อย แม้จะเห็นว่ามีของอะไรอยู่ท้ายรถ หากจะขอดูใบผ่านก็ไม่กล้า กลัวจะถูกตะคอก เรื่องที่จะตรวจบัตร ตรวจสติกเกอร์ที่แสดงว่าเป็นบุคคลที่ได้รับอนุญาตสำหรับที่นั้นๆ อย่าหวัง รปภ.จะเป็นคนที่โชคดีกว่าคนอื่น ตรงที่งานไม่หนัก ไม่เหนื่อย แต่ง่วง แค่นั้นเอง นั่งเฝ้าป้อมยามไปวันๆ ที่จะเดินตรวจประตูหน้าต่าง พื้นที่หวงห้าม จุดอ่อนที่จะเกิดการโจรกรรม บุกรุก งัดแงะ ลักขโมย มันเป็นเพียงสิ่งที่อยู่ในเอกสารตอนเสนอราคา เอาเข้าจริงๆ มีที่เดียวที่เฝ้าอย่างดีก็คือป้อมยาม รปภ.บางคนควงสองกะสามกะ เพราะความที่อุตสาหกรรมบริการแบบนี้หาคนมาทำงานประจำยั่งยืนได้ยาก ส่วนมากบริษัท รปภ.จะเอารถไปรับคนมาจากชนบท เอามาแต่งเครื่องแบบ ฝึกซ้ายหัน ขวาหัน ตะเบะให้ดูทะมัดทะแมงเป็นใช้ได้ พวกเครื่องแบบ กระบอง ไฟฉายอะไรต่างๆก็หักเอาจากค่าแรงเดือนแรกๆ เหมือนจับเสือมือเปล่า เพราะฉะนั้น รปภ.สมัครเล่น เจอกับผู้ว่าจ้างแบบขอไปที ก็เลยพอดีกัน อยู่กันไป อย่าให้มีของหายก็แล้วกัน แต่ถึงจะมีของหาย บริษัท รปภ.ก็ไปหักเอาจากเงินเดือนพวกนี้อยู่ดี พอหน้าทำไร่ทำนามาถึง ก็กลับบ้านนอก พวกที่เหลือก็ควงกะกันเป็นว่าเล่น นายจ้างไม่เคยเช็ค สบายไป เผลอก็แอบงีบ
อยากรู้ว่า รปภ.อยู่กันอย่างไร ก็ลองไปตีซี้ดู ลองเข้าไปดูในป้อมยาม ดูกาต้มน้ำ ดูกะละมังกาละแหม่ง ที่เขาใช้ บางที่อนาถา ไม่ต้องพูดถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยตามสากล หายาก

กลุ่มสุดท้าย พวกแม่บ้าน พนักงานทำความสะอาด พวกนี้ดีหน่อย ใกล้เจ้าใกล้นาย คนไหนช่างจ้อ ก็ได้รับใช้ใกล้ชิด ล้างส้วม ชงกาแฟประเคน (แล้วแต่ว่าอันไหนด่วนกว่า) งานก็ไม่ได้หนักหนาอะไร บางคนวางตัวเป็นเจ้าแม่อีกต่างหาก ประมาณว่าถ้าไม่ใหญ่จริง อย่าหวังว่าจะได้แตะต้องกาแฟของพวกเธอ เพราะสงวนไว้สำหรับผู้บริหารระดับซู๊งงงงงเท่านั้น

อันตรายหลักๆอย่างน้ำยาถูกระจก(ห้ามผวนคำ เพราะไม่สุภาพ) น้ำยาล้างส้วม ทำอะไรพวกเธอไม่ได้หรอก จะให้ใส่แว่นใส่ถุงมือ มันถูไม่ถนัด ดีไม่ดีเซฟตี้พูดมากอาจจะถูกวางยา เอาฟองน้ำขัดส้วม ไปขัดถ้วยกาแฟเอามาให้กินซะหรอก

ไม่ว่าจะเป็นใคร เวลาเจ็บ เวลาป่วยขึ้นมามันก็เป็นเรื่อง ที่ว่าเป็นเรื่องก็คือต้องสอบสวน ต้องหาสาเหตุ ต้องหาทางป้องกัน

มีอยู่แห่งหนึ่งที่ รปภ. มีอาการทางประสาท แล้วไม่มีใครใส่ใจ เขาเดินเทิ่งออกไปให้รถบรรทุกชนตายคาที่หน้าป้อมยาม อีกที่หนึ่ง รปภ.พกปืนมา แล้วเอามาทำความสะอาด ปืนลั่นใส่ท้องตัวเอง
อีกที่หนึ่ง รปภ.ถูกตบด้วยรองเท้าเซฟตี้สลบคาที่ ข้อหามีกิ๊กเป็นแม่บ้าน

ที่ร่ายมาทั้งหมด ถ้าเข้าไม่ถึง ไม่มีทางรู้ เชื่อดิ

เรื่องของ (กู)

ถ้าจะถามว่าตลอดเวลายี่สิบสี่ปีที่ทำงานด้านความปลอดภัย สุขภาพอนามัยมาทั้งในประเทศไทยและแถบๆภูมิภาคเอเชียอะไรที่เป็นเรื่องยากที่สุด ผมตอบได้เลยว่า ทำให้คนรักชีวิตและรักษาสิทธิของตัวเองในเรื่องความปลอดภัย เป็นเรื่องยากที่สุด การทำงานแบบโลดโผนเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายจึงมีให้เห็นอยู่เป็นประจำ พอไปเตือนไปบอกเข้าก็ฮึดฮัดฮื่อแฮ่ ฮึ่มๆๆๆๆประมาณว่าอย่ามายุ่งกะกู 




อย่างกรณีพนักงานซ่อมบำรุงของบริษัทแห่งหนึ่ง กำลังทำงานซ่อมเครื่องโม่ที่เรียกว่าบอลมิล ไอ้เครื่องจักรแบบนี้มันจะมีอันตรายก็ในยามที่ต้องหยุดซ่อม ต้องมีคนเข้าไปถอดชิ้นส่วน ต้องเปลี่ยนอะไหล่ ซึ่งหากมีใครมาสตาร์ทเครื่องเข้าในจังหวะนั้นก็จะเป็นอันตรายสาหัส การที่จะทำให้เกิดความปลอดภัยก็ต้องทำตามขั้นตอนการตัดแยกแหล่งพลังงานทั้งหลาย ติดกุญแจและแขวนป้ายเตือน ได้ใบอนุญาตทำงานเสียก่อน แต่ปรากฏว่าสภาพที่เห็นไม่เป็นไปตามนั้นเลย พวกเขาไม่ทำตามขั้นตอนความปลอดภัยเลยแม้แต่ข้อเดียว พอเรียกเซฟตี้มาซักไซร้ไล่เลียงก็ได้ความว่า “ที่นี่เขาไม่ทำกันหรอกครับพี่มันเสียเวลา”

 

ฟังแล้วขนหัวลุก โดยเฉพาะกลุ่มนี้ดูจากประวัติอุบัติเหตุเคยทำให้เด็กรับเหมาถูกไฟดูดตกลงมาจากบันไดหัวกระแทกขอบโต๊ะตายคาที่มาแล้วเมื่อสามเดือนก่อนที่เราจะมาเริ่มงาน หัวหน้าแก๊งนี้เคยทำคนงานตายคาท่อส่งน้ำดินมาแล้วเมื่อสี่ปีก่อนตัวเขาเองก็เกือบตาย  ในที่สุดผมจึงต้องเร่งให้มีการอบรมเรื่องการขออนุญาตทำงาน การตัดแยกระบบที่เรียกว่า โลโตโต้ ภาษาอังกฤษเรียกว่าล๊อกเอ๊าท์แท่กเอ๊าท์ (นี่ถ้าพวกราชบัญดิดตะยะสะถานมาอ่านคงเคืองหน้าดู) อบรมกันไปสองวันเต็มๆ สอนวิธีการตัดพลังงาน การใช้กุญแจ การตัดระบบสาระพัด พอตอนจบพี่ๆเขายกมือถามว่าไอ้พวกเนี้ยทำไปทำไม เสียเวลาตายห่า จะซ่อมอะไรแต่ละทีมัวมาเช็คนั่นเช็คนี่ พอดีเครื่องไม่ต้องเดินกันพอดี เสียเวลาโคตรๆ 

งัยหละฟังแล้วสะอึก จึงย้อนถามพี่เขาไปว่าที่ต้องเสียเวลาล๊อกนู่นนี่นั่นเพื่อให้ปลอดภัยนั้นเป็นเวลาของใคร??? เวลาของเขา???หรือเวลาของบริษัท???  ถูกต้องแล้วครับมันคือเวลาของบริษัทที่เขายอมเสียเพื่อให้ลูกจ้างปลอดภัย แต่ลูกจ้างไม่เข้าใจ กลัวนายจ้างจะผลิตได้น้อย กลัวเครื่องหยุดนานก็เลยยอมตายถวายชีวิต ทำทุกวิถีทางเพื่อนายจ้างโดยไม่สนใจว่าตัวจะเจ็บจะตาย

 

พอถามย้ำว่าถ้าคุณทำเร็วๆ ไม่สนจะเป็นจะตาย นายจ้างเขาจ่ายเพิ่มให้ไหม??? ก็ตอบไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้จ่ายเพิ่มให้ตามความเร็วและงานที่ได้ แล้วพอถามเอาแบบจริงๆจังๆว่าถ้าพี่บาดเจ็บหรือพิการ หรือตายใครลำบากกับพี่ด้วย??? นายจ้างหรือก็ไม่ใช่อีก ถามว่าเขาจะเลี้ยงและส่งลูกพี่เรียนจนจบมหาลัยมั๊ย ???นายจ้างหรือ หรือกองทุนเงินทดแทน เงียบ พอถามหนักๆเข้าก็บอกว่า เป็นลูกจ้างเขาให้ทำยังงัยก็ทำ นั่นว่าเข้าไปนั่น  ถามจริงๆเหอะ เข้าใจคำว่าลูกจ้างนายจ้างผิดไปมั๊ง  กฏหมายแรงงานน่ะหัดไปหาอ่านซะมั่ง แต่เดี๋ยวก่อน ถ้าคุณไปหาอ่านกฏหมา รัดถะทำมะนูนก่อน ก็จะดีนะจะได้เข้าใจว่า เราทำงานแลกกับค่าจ้าง เอาแรงเอาสมองเอาความชำนาญมาแลกค่าจ้างไม่ใช่เอานิ้ว เอามือ เอาแขนเอาขาเอาลูกตามาแลก พวกคนต่างชาติชาวอเมริกัน ออสเตรเลีย หรือใครก็แล้วแต่ที่ผมเคยเห็นมา มันไม่ทำหรอกถ้าไม่ปลอดภัย มันไม่บ่นหรอกถ้าให้มันทำตามขั้นตอนให้เกิดความปลอดภัยสำหรับพวกมัน รู้มั๊ยเพราะอะไร เพราะมันปอดแหก ขี้กลัว รักชีวิต และที่สำคัญ ไม่ยอมเสียสิทธิในการมีสภาพการทำงานที่ปลอดภัยโดยเด็ดขาด มันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของการเป็นมนุษย์ในสังคมประชาธิปไตย


อย่าโกรธนะถ้าจะบอกว่า เรื่องแบบนี้ คนไทยยังห่างไกล  คนไทย เจ็ก ญวน แขก เหมือนกันหมดประเทศที่จะเจริญครึ่งกลางๆ ประเทศที่มีทั้งขี้หมาขี้คนกลางสะพานลอย มีหลุมให้คนเดินตกกลางถนนในเมืองหลวง ถนนหนทางมีกองอิฐกองดินมีป้ายทู่เรศๆว่าเขตก่อสร้างกูไม่ได้ห้ามถ้าจะขับรถไปชนกองหินตายเล่นๆ  พอเอาเข้าจริง ขี้เกรงใจ คนในประเทศแถบนี้ไม่บ่นแม้ว่าจะต้องให้แบกให้หามเหมือนวัวเหมือนควาย ดีใจเสียอีกถ้าไม่ต้องใส่แว่น ใส่ที่กรองฝุ่นอันตราย ปอดพังไม่ว่าแต่อย่ามายุ่งกะกู  เฮ่อ อนาถจิต กรูจะบ้า เอาเหอะ งั้นก็เรื่องของมึงละกัน (It’s your business!)

วันศุกร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2559

กรรมกรต่างภาษาเซฟตี้ปากหมาต่างแดน

 

Emotional Brain ทำให้เราจำอะไรได้นาน จำไม่ลืม

 

เดือนเมษา วันหยุดยาวๆ แดดแบบนี้

แดดเปรี้ยงๆแบบนี้ทำให้หวนนึกถึงยามที่ไปตกระกำลำบากอยู่สิงคโปร์

ความที่ผืนดินบนเกาะจูล่ง นั้นอยู่กลางทะเล เวลาใกล้เที่ยงแดดตรงหัว มันจึงร้อนจนแทบละลาย มันร้อนอบอ้าว ไม่เหมือนความร้อนตรงสันเขื่อนฮูเวอร์ที่อเมริกา ที่ร้อนแห้งๆราวกับเสื้อสีดำที่ใส่ไปจะลุกติดไฟพรึบขึ้นมา นั่นเป็นครั้งแรกที่ได้เจอลมร้อนแบบทะเลทราย ยิ่งต้องลงไปเดินอยู่กลางแจ้งยิ่งเหมือนกับหนังจะหลุดออกจากเนื้อเลยทีเดียว ร้อนทะเลทรายกับร้อนทะลมันไม่เหมือนกัน ถ้าให้เลือกร้อนแบบหลังดีกว่าเยอะ เพราะเราคุ้นเคย

อุณหภูมิที่สูงกับความชื้นในอากาศที่มากทำให้เหงื่อออกเป็นน้ำเปียกโชกตั้งแต่หัวจรดเท้า ใต้หมวกเซฟตี้ปีกกว้างแบบคาวบอย ผมเผ้าที่รกรุงรังเปียกชุ่ม เสื้อแขนยาวแม้จะมีช่องระบายอากาศที่แผ่นหลังก็โชกไปด้วยเหงื่อ

กางเกงในฉ่ำไปด้วยน้ำพักน้ำแรง

แสงแดดหลุบลงในช่วงบ่ายตามมาด้วยพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าร้องกึกก้องแผดผ่าเปรี้ยงๆตรงนั้นตรงนี้เป็นระยะๆ เป็นแบบนี้ทุกวัน

ที่หลบฝนในตู้คอนเทนเนอร์จึงแออัดไแด้วยผู้ใช้แรงงานตัวเหม็นๆอย่างพวกเรา กลิ่นเหงื่อ กลิ่นเต่า กลิ่นรองเท้าเหม็นตุ่ยๆจึงเป็นเหมือนไออบของชีวิตที่ใช้แรงงานในต่างแดน

คลุกคลีกับคนงานจนเป็นเหมือนพี่น้อง ผมจึงเป็นเหมือนทุกเรื่องยามที่เขาลำบาก

คนงานคนหนึ่งถูกตรวจพบฉี่สีม่วง

เขายืนกรานว่าไม่เคยเสพสารเสพติดอย่างที่ห้องพยาบาลของเอ็กซอนโมบิลกล่าวหา

เขาถูกส่งไปสถานีตำรวจ ถูกขังและส่งตรวจอีกสองรอบที่โรงพยาบาล ผลเป็นลบทั้งสองครั้ง แต่แทนที่จะได้รับการส่งมาทำงานเขากลับถูกแผนกเซฟตี่ของเอ๋กซอนออกคำสั่งประกาศิตส่งเขากลับบ้าน ไม่แยแสหนังสือโต้แย้งจากเรา

นั่นทำให้เราเริ่มเกลียดพวกที่ใส่เสื้อเซฟตี้แต่หาได้มีสำนึกแบบเซฟตี้จริงๆเลย มันบ้าอำนาจ ใช่เลย เซฟตี้แบบบ้าอำนาจ บ้าตัว E-ENFORCEMENT

คนงานอีกคนป่วย ผมไปโรงพยาบาลเป็นเพื่อนเขา หมอที่นั่นวินิจฉัยว่าเขาป่วยด้วยอาการ ที่เรียกว่า ชริโซฟีเนียร์ คนไข้ได้ยินเสียงในหัวของเขาเอง เหมือนมีใครมาคุยด้วยตลอด เขาพูดคนเดียว เลยถูกส่งเข้าโรงพยาบาลโรคทางจิต ที่นั่นคนไม่บ้าเข้าไปอยู่รวมกันกับคนบ้า คงบ้าได้ง่าย

คนงานรายนี้ มีลูกหนี้มากมายในไซท์งาน เพราะเขาขี้เหนียวเก็บเงินได้มาก ให้คนยืมไปเยอะ พบป่วย สิ่งที่เขาส่งมอบให้ผมคือบัญชีลูกหนี้ ป๊าดในรายชื่อเหล่านั้นมีระดับซุปเปอร์ไวเซอร์หลายคนเชียว

สิงคโปร์ เป็นเมืองเล็กๆ กิจกรรมยามว่างของคนงานในวันหยุดแค่วันเดียวต่อสัปดาห์ คือการไปสุมหัวกันในย่านคนไทย กิน เที่ยว ปลดปล่อย แล้วก็มุ่งหน้ากลับหอพักให้ทันเวลา มิเช่นนั้นจะเข้าไม่ได้ คราวนี้ก็เป็นเรื่อง มีอยู่หลายหนที่คนงานไปติดค้างอยู่ข้างนอก เดือดร้อนเราทุกครั้ง
คนงานต่อยกันหน้าตาบวมปูด สอบสวนได้ความว่าเมา หมั่นใส้กันตอนจีบสาว พกความหมั่นใส้กลับมาด้วยกัน ได้จังหวะเลยต่อยกันหน้าตาเละ สุดท้ายส่งกลับทั่งคู่
การทำงานในไซท์ก่อสร้าง ในฐานะผู้รับเหมา เป็นประสบการณ์แปลกใหม่ ได้เจอพวกเซฟตี้แปลกๆ คนไทย ฟิลิปปินส์ แขกมาเลย์ อินเดีย แต่ที่กวรตีนที่สุดขี้เก็กที่สุด ไม่มีใครกินเซฟตี้คนไทย
ไอ้พวกนี้ใส่ชุดเอ็กซอนโมบิลแล้วราวกับมันเป็นพระเจ้า เดินมาอย่างนายแบบ กอดกระดานรองเขียน สะพายกล้อง มาจ้องเมียงๆมองๆคนงานไทยที่ทำงานบนนั่งร้าน แล้วกวักมือเรียก ไอ่น้องลงมานี่หน่อย พอคนงานปลดตะขอสายกันตก จะลงมาหามัน มันยกกล้องถ่ายรูปแชะ แล้วเอาไปใส่รายงานว่สคนงานไทยไร้สำนึกไม่คล้องสายกันตก ระยำจริงๆไอ้นี่
ไอ้แขกอินเดียอีกคน ไอ้นี่มาซุ่มๆดูคนงานเจียร์งานในซุ้มผ้ากันไฟ มีไฟร์วอทช์อยู่ใกล้แต่ไม่เกินสามเมตร ไอ้หอกนี้เดินมาหาผมโวยวายว่าคนงานทำงานแบบโลนเวิร์คเกอร์ ผมเถียงไปว่ามันไม่ใช่โลนเวิร์คกิ้ง กูยืนหัวโด่อยู่นี่ ไฟร์วอทช์ก็อยู่ด้วยตลอด เถียงมันไป มันบอกยูมีทัศนะคติไม่ดี ขอคุยกับผู้จัดการ เลยบอกมันไปว่า กูนี่ไงผู้จัดการ ไอ้ควาย มึงมีปัญญาแค่กดขี่คนงาน มึกแหกตาดูสิว่ามันไม่ใช่ Lone working ด่ามันไปอีกหลายประโยค มันเลยเดินหนีไปเลย
นึกไปนึกมา ก็แวบขึ้นมาในหัวว่า เราเคยงี่เง่าแบบนี้กับผู้รับเหมารึเปล่าวะ กรรมถึงตามสนอง แต่เอ... เราไม่เคยงี่เง่าแบบนี้เลยนี่หว่า

ปั๊กยู

 
 
 
 


 

หลับใน เอะใครมาหลับยาว

MICROSLEEP

เผลองีบไปติดส์นึง




 

สมัยเรียนปีหนึ่งที่ศิลปากร มีเพื่อนซี้คนหนึ่ง มันชื่อไอ้มิตร ที่ว่าเป็นเพื่อนซี้ เพราะไอ้นี่มันรหัสติดกันกับผม พออาจารย์ขานชื่อสุมิตร ถัดมาก็ต้องเป็นสุมนต์ เพื่อนคนนี้มีลักษณะพิเศษอย่างหนึ่งก็คือ มันหลับได้ทุกคาบ พออาจารย์เริ่มสอน ผมหันไปดู ก็จะเห็นมันมีอาการแบบนี้เลย


 มันพยายามเปิดเปลือกตา ชนิดที่ว่าฝืนสุดๆ ดูเหมือนเปลือกตาไอ้นี่จะหนักมาก เลยดูเหมือนมันพยายามทำตาปะหลับปะเหลือก เดี๋ยวๆตามันก็ปรือๆทำท่าจะปิดแหล่มิปิดแหล่

  •  สับปะหงก อันนี้ไม่ต้องบรรยาย คือคนมันฝืน พยายามเอาหัวให้ตั้งเข้าไว้ พอฝืนไปสักพัก คอก็หักงุ๊บลงมา

  •  พอรู้สึกตัว มันก็ทำท่าจดยิกๆๆๆ ไม่รู้มันจดอะไร เคยขอดูสมุดเล็คเชอร์มัน เห็นมีแต่เส้นขีดไปขีดมา ไอ้บ้าจดอะไรไม่รู้ อ่านไม่ออก

  • กระพริบตาถี่ๆ อันนี้เกิดจากความพยายามจะตื่น กระพริบไปพักเดียว จะเห็นตามันจ้องเขม็งแบบไร้จุดหมาย มันไปแล้ว ไปเข้าเฝ้าพระอินทร์แล้ว


ที่พูดมานั้น เป็นอาการที่เรียกว่า ไมโครสลีป (Micro sleep) คนไทยเรียกหลับใน

 

เพื่อนผมหลับในมันไม่มีอันตรายกับใคร อย่างมากก็โดนอาจารย์ด่า แต่ถ้าหลับในอย่างกรณีในรูปข้างบน นั่น ตายไปสี่ศพ แตงมงแตงโมกระจายเกลื่อนถนน เป็นอุบัติเหตุพริตตี้หลับใน รถพุ่งชนคนที่ป้ายรถเมล์  อุบัติเหตุจากคนขับรถหลับใน จึงมีให้เห็นเป็นประจำ  สาเหตุสำคัญประการหนึ่งก็คือ คนเราไม่เชื่อว่าตัวเองจะหลับใน ถามทีไรก็บอกไม่ง่วง ลองไปถามคนขับรถดู ว่า พี่ๆ ง่วงมั๊ย ร้อยทั้งร้อย มันบอกไม่ง่วง

ปีกลาย ไปเผาศพแม่ของรุ่นน้องคนหนึ่ง ประสบอุบัติเหตุ ระหว่างการตะลอนทัวร์ทำบุญเก้าวัดทางภาคเหนือ คนขับรถตู้หลับใน ตายไปสามศพ เจ็บอีกสี่ คนขับตื่นขึ้นมางง ถามว่าหลับในรึเปล่า มันบอกว่าปล่าว แค่พักเปลือกตาไปแวบเดียว

การหลับในเกิดขึ้นเมื่อสมองหยุดสั่งไปไปในช่วงเวลาสั้นๆ ตั้งแต่ 2 ถึง 10 วินาที อย่างเพื่อนผมมันงึบไปแต่ละทีประมาณ  4 วินาที  ถ้าหากไอ้นี่กำลังขับรถ ห้อตะบึงมาด้วยความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตอนที่มันงึบไป 4 วินาที รถจะวิ่งไปได้ไกลเท่าไหร่ สูตรคำนวณ  V = S/t  แทนค่าสูตร  ย้ายข้างเอา t ไปคูณกับ V แล้วแปลงหน่วยจากชั่วโมงเป็นวินาที จะได้ว่า ระยะทางที่รถพุ่งไปในช่วง 4 วินาทีงึบๆนั้น มีค่า เท่ากับ 0.111 กิโลเมตร เอา 1000 คูณเข้าไปเพื่อแปลงหน่วยเป็นเมตร  หรือเท่ากับ 111 เมตร นั่นแหละคือระยะทางที่รถพุ่งไปข้างหน้าแบบไร้คนขับ คือคนขับมันหลับไปแล้ว รถก็เลยไม่ยอมเลี้ยวตามโค้ง  รถวิ่งข้างเลน รถวิ่งข้ามเกาะกลางถนน รถวิ่งลงเหว รถวิ่งชนป้ายรถเมล์ รถวิ่งไปตามอำเภอใจ ใครหลบได้ก็หลบ หลบไม่ได้ก็หลับยาว

 

 
 
เรื่องหลับในจึงเป็นเรื่องหนึ่งในงานความปลอดภัย มันเป็นปัญหาที่แก้ได้ยากมาก หากผู้คนยังไม่เชื่อว่า


·       ก. มนุษย์ เป็นสัตว์เลือดอุ่น สมองมนุษย์บางส่วนสามารถหยุดทำงานหรือเกิดอาการ Micro sleep ได้กันทุกคน เรื่องนี้ฝรั่งมันทำวิจัยกันมามากมาย ทั่วโลกเขาเชื่อว่าคนในโลกนี้หลับในได้ทุกคน แต่คนไทย เราเป็นประเทศที่มีเอกราชมาช้านาน มึงอย่ามาหลอกกูเสียให้ยาก คนไทยไม่หลับในโว้ย นั่นมันเป็นการ  พักสายตาเถิดหนาคนดี หลับลงตรงนี้ ที่ที่มีแต่เราสองคน ... เหยียบมอไซด์ เหยียบหมา เหยียบคน สับสน หลายอย่าง บางเวลาต้องการ...ฮัมๆๆๆ


·       ข. ขนาดเชื่อว่าหลับในได้ มันยังฝืนขับต่อ คนประเทศไหนวะเนี่ย


 

ป้องกันอย่างไรไม่ให้หลับใน

 

 งานวิจัยพบว่า คนจะง่วงหนักหนาสาหัสแบบเอาไม่อยู่ช่วง ตีหนึ่งถึงหกโมงเช้า โดยเฉพาะคนที่อดนอน หรือที่ฝรั่งเรียกว่า สลีปเดปท์ หรือพวกติดหนี้การนอน  พวกอดนอนมากๆ สมองบทมันจะหยุดเข้าสู่สภาวะหลับใน มันไม่บอกไม่กล่าว มันหลับไปเลย อย่างเพื่อนผม เห็นนั่งตาแป๋ว มันไม่มีวิญญานแล้ว มันหลับฝันถึงอีเป้าไปตั้งนานแล้ว (สุดท้ายอีเป้าสาวอักษรก็หักอกมัน)

 

เพราะฉะนั้น นี่คือคำแนะนำสำหรับพี่ๆน้องๆที่จะต้องขับรถกลับบ้านเก่าช่วงสงกรานต์

 

 

1.     หลีกเลี่ยง สภาพที่ต้องอดหลับอดนอนที่ทำให้นอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมง อย่างเช่น เล่นเฟส แช็ทคุยกับสาว สไกป์เสียวกับสาวออนไลน์ ดูหนัง(โป้) หนังอื่นมันไม่ดูดึกขนาดนั้นแน่นอน

 

2.     แก้ไขสาเหตุที่ทำให้รบกวนการนอน เช่นที่นอนหัดซักซะบ้าง คันคะเยอ ร้อนอบอ้าว เสียงดังรบกวน มีเด็กร้องโยเย แนะนำให้ไปนอนที่อื่นที่หลับสบายๆขึ้น กึ๋ยๆๆ แต่วธีนี้เมียจับได้อาจจะเกิดอาการแมคโครสลีปขึ้นได้นะครับ

 

3.     เลี่ยงการเข้ากะกลางคืน หรือเปลี่ยนกะโดยที่คุณไม่ได้พักผ่อนเพียงพอมาก่อน ประเภทควงกะ ต่อกะ มั่วไปหมด

 

4.     เลี่ยงการขับรถในเวลากลางคืน โดยเฉพาะช่วงไพรม์ไทม์ ตีหนึ่งถึง หกโมงเช้า

 

5.     ถ้าคุณทำกะกลางคืนเป็นปกติ อย่าลืมว่าเวลานอนของคุณมันกลับกันกับคนอื่น ถึงเวลานอนต้องนอน อย่าไปแรดไปทั่ว

 

6.     การดื่มเหล้า หรือกินยาบางอย่างจะทำให้ง่วง อย่างยาแก้ไอ ยาลดน้ำมูก

 

7.     ขับรถยาวเกินกว่า 15 ชั่วโมง แบบนี้หลับในชัวร์

 

 

พูดมาถึงตรงนี้  เมื่อไหร่ที่คุณมีอาการแบบไอ้มิตรเพื่อนผม รีบเลย หาที่แวะ พักผ่อน ล้างหน้าล้างตา หาที่เหมาะนอนพักสักงีบ การได้หลับ เป็นวิธีเดียวของการแก้ปัญหาหลับใน กาแฟ ลิโพ โอเลี้ยง เอ็มร้อย กินเท่าไหร่ก็เอาไม่อยู่หรอกครับ เพราะอาการ ไมโครสลีป มันเป็นระบบออโต้ของสมอง เขาเรียกว่า อินโวลันทารี่ คือมันทำงานของมันเอง มันหยุดของมันเอง ใครก็ฝืนไม่ได้ ต่อให้ ดึงหู แลบลิ้น ตะโกน หยิก ตบหน้าตัวเอง ทำสาระพัด แป็บเดียว หลับปุ๊บ อยากตื่น มะ จะตบให้   ส่วนไอ้นี่ หลับยาม วันหลังไปหลับในป้อมนะไอ้น้อง  ไปหลับข้างใน พี่เป็นห่วง
 


ษมน รจนาพัฒน์                            
 
 
 

ประวัติศาสตร์เซฟตี้

 Abraham Maslow พูดถึงเซฟตี้ไว้เมื่อปี 1943 ว่าลำดับขั้นของความต้องการของคนนั้นมีอยู่เป็นลำดับๆ เริ่มตั้งแต่ความต้องการพื้นฐาน อย่างอาหาร อา...