วันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

ความลึกลับของกฏหมาย จป. ไข่ดันบวม

กฏหมาย จป. เนี่ยมันมีมานานแล้ว เด็กรุ่นใหม่บางคนยังไม่รู้ว่า จป.มันคืออัลไร จป. แปลได้หลายแบบ สมัยนู้น แปลว่า จิปาถะ น้ำไม่ไหล ไฟไม่ติด ส้วมแตก ส้วมตัน ผึ้ง ต่อแตนมาทำรัง เรียกใช้ จป. เมื่อครั้งนั้น เป็นไปตามประกาศกรมแรงงาน พ.ศ. 2528 เมื่อกาลก่อนโน้น จป.หางานง่าย เพราะเพิ่งมีกฏหมายบังคับให้สถานประกอบกิจการที่มีคนงาน 100 คนขึ้นไปต้องมี จป.หนึ่งคน 

ต่อมา ปี 2540 ก็มีประกาศกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ก็เกิด จป.หัวหน้างาน กับ จป.บริหาร ขึ้น แล้วก็มี จป.ระดับพื้นฐาน กับ จป.วิชาชีพ เกิดขึ้น พวก จป.พื้นฐานนี่ต้องผ่านการอบรม 180 ชั่วโมง ตอนนั้น พวก จป.ก็ยังมีไม่มาก ยังหางานง่าย 

ต่อมาปี พศ. 2549 ก็เกิด จป.ขึ้นอีกสองจำพวก คือ จป.เทคนิค และจป.เทคนิคขั้นสูง ส่วน จป.พื้นฐานนั้นไม่มี เหลือแต่ จป.วิชาชีพอย่างเดียว คราวนี้ มหาวิทยาลัยต่างๆก็ตั้งหน้าตั้งตา เปิดภาควิชา ที่จบ ออกมาแล้วเป็น จป วิชาชีพได้เลยกันมากมาย จป.เริ่มตกงาน

ต่อมา เมื่อลุงสุชาติ ชมเก่งมาเป็นเจ้ากระทรวง ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอีก เกิดกฏกระทรวงชื่อใหม่ๆอย่าง กฎกระทรวง การจัดให้มีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการท างาน บุคลากร หน่วยงาน หรือคณะบุคคลเพื่อด าเนินการด้านความปลอดภัย ในสถานประกอบกิจการ พ.ศ. 2565 ไปยกเลิกกฏกระทรวงปี 2549 เข้าให้ เลยทำให้เกิด จป.ชนิดใหม่ๆ ชื่อเดิมๆ และหน้าที่เดิมๆ ต่างกันก็ตรงที่ มีบัญชีแนบท้ายกฏกระทรวง ว่าสถานประกอบการอะไร อยู่ในบัญชีอะไร ความอลหม่านก็เกิดขึ้น อันแรกเลย พวกสถานประกอบกิจการที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อผู้ประสงค์ออกนาม งง ไม่รู้ว่าตัวเองเข้าข่ายมั้ย ถ้าเข้าแล้วต้องมี จป.อะไร เท่าไหร่ ยังไง พวก จป.เทคนิค ที่เรียนได้ใบประกาศไปช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ บางคนยังตกงาน เพราะเอาใบประกาศจากกฏกระทรวงเดิมไปขึ้นทะเบียนไม่ได้ 

แต่ไม่ว่าจะเปลี่ยนมากี่รอบ จำนวน จป.วิชาชีพ ก็เริ่มที่คนงาน 100 คนขึ้นไป ครั้นพอถามไปว่า ที่โรงงานหนู ดิชั้น กระพ้ม มีคนงานเกือบครึ่งหมื่น บางคนหมื่นกว่า มี จปว แค่สองคน จะตายอยู่แล้ว ต้องมี จปว เพิ่มอีกมั้ย คำตอบที่เจ้าหน้าที่กรม กระมิดกระเมี้ยนตอบมาก็คือ เอ่อ ครือ ครือ จะให้พูดขาวกับดำแบบนั้นไม่ได้ เอ่อ ครือ มีคนเดียวก็พอ ฮาขี้แตก คนงานเกือบหมื่น จปว คนเดียวก็พอ แล้วก็ถูไถไปว่า โรงงานปลูกในอาณาบริเวณเดียวกัน สถานประกอบการไม่ได้ตั้งอยู่โดดเดี่ยว แบบนี้ คนเดียวก็เพียงพอ 

แค่ จปว จะเดินให้ครบทุกโรงเนี่ย ก็ไข่ดันบวมแล้วคร๊าบเจ้านาย 



วันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

โลเวอร์เอกซ์โพลสีฟลิหมิด แวบเดียวเสียวกันทั้งบาง

 


ถังน้ำมันเปล่าระเบิด เพราะมีคนเอาไปตัดด้วยหินเจียรมั่ง เอาเครื่องตัดแก็สมาตัดมั่ง แล้วก็ระเบิดปุ้ง เป็นข่าวเป็นคราวซ้ำแล้วซ้ำอีก นักข่าวก็ไปสัมภาษณ์คนที่อยู่ละแวกใกล้เคียง ต่างก็ตกอกตกใจ บ้างก็กำลังกินหมูกะทะ บางคนก็ตกใจที่มีเศษโลหะชิ้นหนึ่งเป็น 100 กิโลปลิวมาตกหน้าบ้าน ส่วนเจ้าของร้านที่เป็นต้นเหตุ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่เป็นอะไรหรอก ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าถังที่ระเบิดนั้นน่ะเป็นถังน้ำมันเปล่า ไม่รู้ว่ามันระเบิดได้ยังไง งงจริงๆๆ เกาหัวแกรก ๆ 



รายนี้มีเพิ่มเติมรายละเอียด ป้าข้างๆบอกว่า (ทำเสียงเหน่อๆ) ฉันกำลังนั่งเล่นเฟสบุคอยู่หลังบ้าน ฝนฟ้ามันครืนๆ ก็คิดว่าเป็นเสียงฟ้าผ่า ที่ไหนได้ รถน้ำมันที่จอดซ่อมกันอยู่ข้างๆมันนะเบิด ไม่รู้ว่าระเบิดได้ยังไง 


หลายๆกรณี เอาถังน้ำมันไปตัดด้วยไฟ ระเบิดสนั่นหวั่นไหว คนไปทาง ถังไปทาง ตัวไปทางขาไปทาง


ระเบิดกันแต่ละที บ้านซ่องห้องหอ เละตุ้มเปะ ชาวบ้านร้านช่องเดือดร้อนกันไปหมด ดีแต่ว่ามันแว่บเดียว เสียวกันทั้งหมู่บ้าน 




ดีหน่อยก็ตรงที่ ถ้าไม่โดนจังๆ ก็ยังพอเก็บพอห่อกันง่าย ถ้าโดนเต็มๆก็เหนื่อยหน่อย กว่าจะเก็บมาครบ ไปค้างอยู่ยอดมะพร้าวก็มี




ในถังน้ำมัน หรือสารไวไฟอื่นๆ จะยังมีไอระเหยอยู่ ซึ่งปริมาณไอระเหยที่มีอยู่นั้น มันผสมกับอากาศและอยู่ในช่วงที่เรียกว่า LEL- Lower Explosive Limit กับ UEL-Upper Explosive Limit เมื่อมันมีแหล่งความร้อน คราวนี้ละมึง ครบองค์ ระเบิดปุ้ง ตายเกลื่อน การที่จะทำการเชื่อม การเจียร์การตัด ถังพวกนี้ต้องกำจัดไอระเหยให่หมดจด ในโรงงานอุตสาหกรรมจะใช้การ Purge ด้วยก๊าซเฉื่อย ไล่จนกระทั่งหมดไอระเหยที่ติดไฟได้ ถ้าไปเจอกับเถ้าแก่ขี้ตืด อาซ้อขี้เหนียว แกก็จะบอกว่า มึงเชื่อมๆไปเหอะ เชื่อกู ไม่ระเบิดหรอก พูดจบแกก็จะไปหลบข้างใน พอระเบิดตู้ม แกค่อยออกมา บอกว่า เออเหอ มันระเบิดได้ยังไงละเนี่ย ถังเปล่าแท้ๆ 
ว่าแต่ว่า ไอ้ร้านซ่อมพวกเนี้ย มันจัดเป็นสถานประกอบกิจการมั้ยครับท่าน แล้วไอ้มะทิงซอ คนพม่าที่ไปกองอยู่ใต้ต้นมะพร้าวนู่น มันจัดว่าเป็นลูกจ้างมั้ยครับจ้าวนาย แหมากระเด็นไปกองซะไกลเลยมึง ถ้าเป็นคนไทยเขาไม่กระเด็นไกลเป็นร้อยๆเมตรหรอก 

วันพฤหัสบดีที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

คนงานตายเรียบ 5 ศพ ไดเร็คเตอร์สองคนติดคุกอ่วม

 





ระหว่างที่คนไทยกำลังจดจ่ออยู่กับ บรรดา ส.ว. ออกมาจีบปากจีบคอว่า ถ้าพรรคแกนนำที่กำลังจะจัดตั้งรัฐบาล ไปแตะต้องมาตร 112 ผมจะไม่โหวตให้นั่งตำแหน่งนายก ประเทศนี้ดักดานกันมาแนนแสนนานแล้ว และจะต้องดักดานกันต่อๆ ดักดานแล้ว ดักดานอยู่ ดักดานต่อไป ที่เมืองเบอร์มิงแฮมประเทศอังกฤษ ก็มีข่าวขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดี่ยน ผู้อำนวยการของสองบริษัทถูกจำคุกหลังจากกำแพงถล่มทับคนงานดับไป 5 ศพ  อ่านข่าวเต็มได้ที่นี่ 

ถ้าเป็นบ้านกูนะมึง ข่าวแบบนี้ ไม่มีหรอก ไอ้ที่ตายไปห้าศพนั่น ก็น่าจะเกิดจากความประมาท ก็กำแพงมันไม่แข็งแรง เข้าไปให้มันทับได้ยังไง รึไม่ก็ ลางร้าย รปภ.ฝันเห็นนางตานีเดินมายักคิ้วให้ก่อนจะสะดุ้งตื่น 

กำลังจะบอกว่า กฏหมายด้านความปลอดภัย ที่เมืองนอกเขาเอาจริงเอาจัง คดีนี้ฟ้องกันมาหลายปี โดยผู้บริหารสองคนทำผิด พรบ.ความปลอดภัย 1974 

บางคนที่ไปเรียน จป.บริหาร จป.หัวหน้างานมา เริ่มขมวดคิ้ว มีด้วยเรอะที่ผู้บริหารจะโดนโทษจำคุก ก็ต้องบอกว่า มีสิครับ มีอยู่ทั้ง ใน พรบ.คุ้มครองแรงงาน 2541 และ พรบ.ความปลอดภัยอาชีวอนามัย 2554 ในมาตรา 69 

ในกรณีที่ผู้กระทําความผิดเป็นนิติบุคคล ถ้าการกระทําความผิดของนิติบุคคลนั้น เกิดจากการสั่งการ หรือการกระทําของบุคคลใด หรือเกิดจากการไม่สั่งการ หรือไม่กระทําการอันเป็นหน้าที่ ที่ต้องกระทําของกรรมการผู้จัดการหรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดําเนินงานของนิติบุคคลนั้น ผู้นั้นต้องรับโทษตามที่บัญญัติไว้สําหรับความผิดนั้น ๆ ด้วย

ในประเทศสารขันแบบไทยๆเนี่ย ไม่มีหรอก อย่างมาก ก็จะจับบรรดา หัวหน้างาน พวกโฟร์แมน รึไม่ก็กรรมกรที่อยู่ตรงนั้นแหละ รอมันออกจากโรงพยาบาล ยัดข้อหากระทำการโดยประมาทจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย (แต่โชคดีมึงรอดมาได้ เลยต้องยัดคดีนี้ให้) 

กฏหมายไทย มีโทษจำคุกนายจ้างที่ไม่ทำตามมาตรฐานมากมายที่เขียนไว้ในกฏกระทรวง ตามมาตรา 53 จำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ขอประทานโทษ ยังไม่เคยเห็นใครโดน อย่างมากก็จ่อเอาผิดนายจ้าง จ่ออยู่นั้น จ่อจนเสียวเยี่ยวแทบปริบ 

อุบัติเหตุทำนองนี้ ถ้าไม่มีมุบมิบปรับกันใต้ร่มไม้ มันสามารถสาวไปจนถึงตอว่าใครหนอสั่งระงับการซ่อมบำรุง ใครหนอแอบงุบงิบเอางบเซฟตี้ไปปลูกบ้านให้เมียน้อย ใครกันว้อยที่สั่งปลดเซฟตี้คนก่อนข้อหาบังอาจเถียงผู้อำนวยการ 

มันมีกฏกระทรวงปี 2553 กำหนดให้นายจ้างต้องมีระบบบริหารความปลอดภัย นัยว่าลอกเอา OSHMS 2001 มาทั้งดุ้น ในกฏกระทรวงนี้ ถ้าจะเอากันจริงๆ นายจ้างที่เห็นความปลอดภัยเป็นเรื่องไม่สำคัญ ส่อแววจะติดคุกกันระนาว อย่างน้อยๆ ก็ 1 ปี บรรดาผู้บริหารทั้งหลายเองก็มีสิทธิโดนด้วยตามมาตรา 69 

เดชะบุญ เราได้เกิดร่วมแผ่นดินกับคนดีมีบุญ คนพวกนี้ ไม่กี่คนจึงมีอภิสิทธ์มากกว่าคนเป็นล้านๆคน กฏหมายมันก็เลยเป็นได้แค่กฏหมา คนยากคนจนคนกรรมกรก็ต้องผจญเวรผจญกรรมกันต่อไป จบบทความด้วยความช้ำใจ ขำไม่ออก เซฟตี้ฮาไม่ออก 


วันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

หนุ่มช่างซ่อม ร้องสื่อ เกิดอุบัติเหตุในโรงงาน ไร้คนเหลียวแล วอนโรงงานเยียวยา

 


เครดิต pptv online หนุ่มช่างซ่อม ร้องสื่อ เกิดอุบัติเหตุในโรงงาน ไร้คนเหลียวแล วอนโรงงานเยียวยา : PPTVHD36

กฏหมายความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็น พรบ. และบรรดากฏกระทรวง ประกาศกระทรวงมากมาย ถ้าเอามาบังคับใช้กันให้มันจริงจัง เข้มงวดกวดขันกัน ไม่มัวแต่จะให้บรรดานายจ้างไปจัดงานปีใหม่เลี้ยงหมูหัน ทะเลเผาในช่วงปีใหม่ และคอยแต่จะดูสถิติบนกระดาษอย่างเดียว ผู้ใช้แรงงานก็จะปลอดภัยขึ้น

งานนี้ ลูกจ้างใช้งาน MEWP- Mobile Elevated Working Platform เพื่อปฏิบัติงานบนที่สูง ข้อแรกเลย ตามมาตรา 6 หน้าที่นายจ้าง ต้องจัดให้มีสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัย ยังไม่ต้องลงลึกไปถึงกฏกระทรวง เอามาตรานี้ก่อน ทำรึยัง  ทำงานบนที่สูง มีอันตรายต่อชีวิตหรือไม่ 

มาตรา ๑๔ ในกรณีที่นายจ้างให้ลูกจ้างทํางานในสภาพการทํางานหรือสภาพแวดล้อมในการ ทํางานที่อาจทําให้ลูกจ้างได้รับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย จิตใจ หรือสุขภาพอนามัย ให้นายจ้างแจ้ง ให้ลูกจ้างทราบถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการทํางานและแจกคู่มือปฏิบัติงานให้ลูกจ้างทุกคนก่อนที่ ลูกจ้างจะเข้าทํางาน เปลี่ยนงาน หรือเปลี่ยนสถานที่ทํางาน  นายจ้างทำรึยัง 

มาตรา 8 ไปดูซิว่า กฏกระทรวงที่เกี่ยวกับการทำงานบนที่สูง มีกี่ฉบับ 

เอาแค่สองสามมาตรานี่ ถ้านายจ้างไม่ได้ทำ ก็ต้องดำเนินการ อย่ามัวแต่ไปเอาผิดกับลูกจ้างคนอื่นในข้อหากระทำการโดยประมาท นั่นมันเป็นการตัดตอนความรับผิดชอบของนายจ้าง 

พูดเรื่องกฏหมายทีไร ก็ของขึ้นเมื่อนั้น เพราะหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยไม่ทำหน้าที่เชิงรุก รึใครจะเถียง 

ทำไมต้องรอให้ลูกจ้างร้องขอความเป็นธรรม ทำให้เขาเถอะ ขอร้อง 


ในการบริหารจัดการงานประเภทนี้ ควรต้องมี

1. Procedure ที่ควบคุมการทำงานบนที่สูง  และเมื่อต้องใช้ MEWP มีข้อกำหนดที่ชัดเจนหรือไม่

2.มี Procedure แล้ว พนักงานได้รับการฝึกอบรมมั้ย 

3.อบรมแล้ว เวลาเขาทำงาน มีการกำกับดูแลมั้ย เอาง่ายๆ ทำไมไม่มีการตัดและล็อกเครน ทำไมไม่จัดให้มีการกั้นพื้นที่ ทำไมไม่จัดให้มี ฺBankman หรือ Flagman ลองดูทีว่ามี Permit To Work สำหรับงานนี้มั้ย 

4 ถ้านายจ้างตอบว่า มีๆๆๆๆๆๆ เคยมีการตรวจประเมินระบบ PTW กันบ้างมั้ย เรื่องนี้ถ้าจะหยิบกฏกระทรวงปี 2553 มาใช้ นายจ้างก็โดนอีก 

แต่ไม่ใช้ ทำไมต้องรอให้ลูกจ้างร้องขอความเป็นธรรม รออะไร


ประวัติศาสตร์เซฟตี้

 Abraham Maslow พูดถึงเซฟตี้ไว้เมื่อปี 1943 ว่าลำดับขั้นของความต้องการของคนนั้นมีอยู่เป็นลำดับๆ เริ่มตั้งแต่ความต้องการพื้นฐาน อย่างอาหาร อา...