กฏหมาย จป. เนี่ยมันมีมานานแล้ว เด็กรุ่นใหม่บางคนยังไม่รู้ว่า จป.มันคืออัลไร จป. แปลได้หลายแบบ สมัยนู้น แปลว่า จิปาถะ น้ำไม่ไหล ไฟไม่ติด ส้วมแตก ส้วมตัน ผึ้ง ต่อแตนมาทำรัง เรียกใช้ จป. เมื่อครั้งนั้น เป็นไปตามประกาศกรมแรงงาน พ.ศ. 2528 เมื่อกาลก่อนโน้น จป.หางานง่าย เพราะเพิ่งมีกฏหมายบังคับให้สถานประกอบกิจการที่มีคนงาน 100 คนขึ้นไปต้องมี จป.หนึ่งคน
ต่อมา ปี 2540 ก็มีประกาศกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ก็เกิด จป.หัวหน้างาน กับ จป.บริหาร ขึ้น แล้วก็มี จป.ระดับพื้นฐาน กับ จป.วิชาชีพ เกิดขึ้น พวก จป.พื้นฐานนี่ต้องผ่านการอบรม 180 ชั่วโมง ตอนนั้น พวก จป.ก็ยังมีไม่มาก ยังหางานง่าย
ต่อมาปี พศ. 2549 ก็เกิด จป.ขึ้นอีกสองจำพวก คือ จป.เทคนิค และจป.เทคนิคขั้นสูง ส่วน จป.พื้นฐานนั้นไม่มี เหลือแต่ จป.วิชาชีพอย่างเดียว คราวนี้ มหาวิทยาลัยต่างๆก็ตั้งหน้าตั้งตา เปิดภาควิชา ที่จบ ออกมาแล้วเป็น จป วิชาชีพได้เลยกันมากมาย จป.เริ่มตกงาน
ต่อมา เมื่อลุงสุชาติ ชมเก่งมาเป็นเจ้ากระทรวง ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอีก เกิดกฏกระทรวงชื่อใหม่ๆอย่าง กฎกระทรวง การจัดให้มีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการท างาน บุคลากร หน่วยงาน หรือคณะบุคคลเพื่อด าเนินการด้านความปลอดภัย ในสถานประกอบกิจการ พ.ศ. 2565 ไปยกเลิกกฏกระทรวงปี 2549 เข้าให้ เลยทำให้เกิด จป.ชนิดใหม่ๆ ชื่อเดิมๆ และหน้าที่เดิมๆ ต่างกันก็ตรงที่ มีบัญชีแนบท้ายกฏกระทรวง ว่าสถานประกอบการอะไร อยู่ในบัญชีอะไร ความอลหม่านก็เกิดขึ้น อันแรกเลย พวกสถานประกอบกิจการที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อผู้ประสงค์ออกนาม งง ไม่รู้ว่าตัวเองเข้าข่ายมั้ย ถ้าเข้าแล้วต้องมี จป.อะไร เท่าไหร่ ยังไง พวก จป.เทคนิค ที่เรียนได้ใบประกาศไปช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ บางคนยังตกงาน เพราะเอาใบประกาศจากกฏกระทรวงเดิมไปขึ้นทะเบียนไม่ได้
แต่ไม่ว่าจะเปลี่ยนมากี่รอบ จำนวน จป.วิชาชีพ ก็เริ่มที่คนงาน 100 คนขึ้นไป ครั้นพอถามไปว่า ที่โรงงานหนู ดิชั้น กระพ้ม มีคนงานเกือบครึ่งหมื่น บางคนหมื่นกว่า มี จปว แค่สองคน จะตายอยู่แล้ว ต้องมี จปว เพิ่มอีกมั้ย คำตอบที่เจ้าหน้าที่กรม กระมิดกระเมี้ยนตอบมาก็คือ เอ่อ ครือ ครือ จะให้พูดขาวกับดำแบบนั้นไม่ได้ เอ่อ ครือ มีคนเดียวก็พอ ฮาขี้แตก คนงานเกือบหมื่น จปว คนเดียวก็พอ แล้วก็ถูไถไปว่า โรงงานปลูกในอาณาบริเวณเดียวกัน สถานประกอบการไม่ได้ตั้งอยู่โดดเดี่ยว แบบนี้ คนเดียวก็เพียงพอ
แค่ จปว จะเดินให้ครบทุกโรงเนี่ย ก็ไข่ดันบวมแล้วคร๊าบเจ้านาย