วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

Telematics Technology

 


ระบบ Telematics กับการบริหารการขนส่งสมัยใหม่ (Telematics and new era of logistic management)

 

หากวันนู้น ผมหิ้วกระเป๋าที่บรรจุบรรดาโบรชัวร์ และสาระพัดอุปกรณ์เดินเข้าไปหาอาเสี่ย อาเฮีย อาซ้อ ที่เป็นเจ้าของบริษัทรับจ้างขนส่ง ไม่ว่าจะขนคน ขนของ ทั้งที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่ หรือขนาดกลางๆ เป็น ห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือแม้แต่ธุระกิจเล็กๆในครอบครัว ตระกูล เล้ง ตระกูลฉ่าง ตระกูลหวัง ตระกูลฮั่ว แล้วบอกว่า เอ่อ ครือๆๆๆ ผมจะมาเสนอขายระบบ เทเลแมติกส์ ก็คงจะเจอคำถามประมาณว่า

·       อารายของลื้อวะ เทเลแมติ๊ก...

·       มังช่ายทามอารายวะ เทเลแมติ๊กเนี่ย

·       มังแพงม๊าย

·       ช้าย ทามอารายวะ

·       อั๊ว ชอบแบบทามมะดา เทคโนโลยีเยอะๆ อั๊วช้ายม่ายเป็ง 

บอกตรงๆนะครับ มันก็ออกจะเข้าใจยากอยู่เหมือนกัน ที่จะอธิบายให้บรรดา เฮียเข้าใจได้ง่ายๆ เอาเป็นว่า ผมจะพยายามถามๆ ว่าเฮียๆ เคยเจอปัญหาแบบนี้มั่งไหมครับ

ปัญหาโลกแตก เลยครับ น้ำมันหาย แบบว่าเติมเต็มถัง แล้วอยู่ๆไปมันไม่พอ ไปไม่ถึงจุดหมายปลายทาง รถแอบเลี้ยวเข้าคอก เสมียนกับคนรถมันรู้กัน ตัวเลขบัญชีน้ำมันไม่ตรงความจริง

ปัญหาที่สอง รถออกนอกเส้นทาง บางทีไปเกิดอุบัติเหตุในเส้นทางที่เราไม่ได้อนุญาตให้มันวิ่ง

ปัญหาที่สาม ไปถึงที่หมายล่าช้า ถูกลูกค้าด่าเช็ด

ปัญหาที่สี่ คนขับตีนผี เทกระจาด นี่ถ้าไม่ได้ซื้อประกันไว้ บรรลัยกันไปหลายรอบ

ปัญหาที่ห้า รถเสียกลางทาง หารถเปลี่ยนไม่ทัน ส่งของผิดเวลา ลูกค้ายกเลิกสัญญา ฉิบหายกันไปหมด

ปัญหาที่หก คนขับรถ เดี๋ยวเข้าเดี๋ยวออก อยู่กันไม่ทน

ปัญหาที่เจ็ด ถ้าเป็นรถส่งสินค้าแบบตู้เย็น ไปถึงที่หมาย ตู้เย็นดันเสียไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ หมู ไก่ เน่าหมดเลย

ปัญหาที่แปด เวลาให้นอนมันไม่นอน ไม่จอด หลับใน เทกระจาด

ปัญหาที่ เก้า กำหนดเส้นทางไม่ได้ บางทีมีการสร้างสะพาน ทำทาง รถไปไม่ถึงที่หมายตามเวลา

ปัญหาที่สิบ ทุนหายกำไรหด หมายศาลกองเต็มโต๊ะ  

 

ที่พรรณามานั่นน่ะ ถ้าเป็นสมัยก่อน ก็ต้องพึ่ง เจ้าพ่อเห้งเจีย กุมารทอง หรือไม่ก็ฮกลกซิ่ว จิวแปะทง ให้ท่านคอยสอดส่องให้ แต่เดี๋ยวนี้ ท่านมี เจ้าพ่อ เทเลแมติกส์ ตอบได้ทุกโจกท์ที่สาธยายมา เทเลแมติกส์ ย่อมาจากคำว่า คอมมิวนิเคชั่น บวกกับคำว่า อินโฟร์แมติกส์  เกริ่นมาตอนแรกเกือบจะดีแล้วเชียว พอเจอไอ้สองคำนี่เข้า อาเฮียก็หันกลับไปซดน้ำชาทำตาปริบๆต่อ

เอางี้ ระบบเทเลแมติกส์เนี่ย มันประกอบไปด้วย การติดตั้งอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์อย่างเช่น ระบบ จีพีเอส ระบบนำร่อง และเซ็นเซอร์ต่างๆ เข้าไป แล้วมันส่งข้อมูลผ่านระบบการสื่อสารสมันใหม่ ไม่ว่าจะเป็นระบบ สามจี สี่จี ห้าจี ทำให้เฮียๆสามารถดูข้อมูลเหล่านั้นผ่านคอมพิวเตอร์ แทบเบล็ท หรือมือถือ  ได้แบบเรียลไทม์  พูดง่ายๆก็คือ อาเฮีย อาซ้อจะลดค่าใช้จ่ายต่างๆและทำการบริหารจัดการระบบการขนส่ง

เริ่มต้นง่ายๆ แบบนี้นะครับ

ระบบเทเลแมติกส์ จะทำให้ข้อมูลต่างๆ ถูกส่งผ่านระบบสื่อสารไร้สายมาถึงผู้ที่บริหารจัดการได้โดยตรง ยกเป็นกรณีตัวอย่างเช่น

มีบริษัทรับเหมาขนส่งสินค้ารายหนึ่ง สมมุติว่าชื่อบริษัทลี้กิมเฮงทรานสปอร์ต เข้าไปรับสินค้าที่โรงงานซึ่งเป็นลูกค้า ที่มีข้อกำหนดเข้มงวดมากมาย อาทิเช่น คนขับรถทุกคันจะต้องมีใบขับขี่ ท.3 ขึ้นไป ต้องไม่เกิดอุบัติเหตุเกินกว่า 2 ครั้งต่อระยะทางรวม 200,000 กิโลเมตร ถ้าเกินนั้นจะถูกยกเลิกสัญญา ต้องส่งสินค้าตรงเวลา และอื่นๆอีกมากมาย อยู่มาวันหนึ่ง คนขับรถหัวใส มีใบขับขี่ตามที่กำหนด เข้าไปรับสินค้าออกมา ขับพ้นประตูโรงงานก็ลงรถ แล้วให้ลูกชายอายุ 18 ปีขึ้นขับแทน ปรากฎว่าไปเกิดอุบัติเหตุ พลิกคว่ำ สินค้าหกล้นรั่วลงคลอง ไฟไหม้เป็นวงกว้าง นี่ถ้าเป็นระบบเทเลแมติกส์ เมื่อเปลี่ยนคนขับรถที่ไม่ได้อนุญาต รถจะไม่สามารถสตาร์ทติดได้ แม้แต่แอบเปลี่ยนคนขับ กล้องที่ตรวจจับใบหน้าก็จะตรวจพบอยู่ดี แบบนี้ เหตุการณ์นั้นจะไม่เกิดขึ้น อาเฮียเองก็จะได้รับข้อมูลแม้ว่าตอนนั้นเฮียอาจจะกำลังตีกอล์ฟอยู่

รถที่ใช้ความเร็วเกิน เฮียก็รู้

รถอยู่ตรงไหน มันก็โชว์บนแผนที่ อีกกี่กิโลจะถึงลูกค้า เฮียก็รู้

อธิบายมาถึงขั้นนี้ เฮียเริ่มมองหน้าอาซ้อเลิกลั่ก แกแอบกระซิบว่า อั๊วไม่เอาฟังก์ชั่นนี้ได้มั้ยวะ ขืนอาซ้อรู้ว่ามันทำได้ขนาดนี้ เอามาติดรถเฮียเข้ามั่ง ชิกอ๋ายเลยกู

รถใช้น้ำมันไปมากน้อย เพิ่มขึ้น ลดลงเท่าไหร่เฮียรู้หมด

รถออกนอกเส้นทาง ไปจอดนิ่งๆ ดูดน้ำมันในคอก เฮียก็รู้

รถคันไหนครบกำหนดเข้าซ่อมบำรุง เฮียก็รู้

โอย... อีกสาระพัดประโยชน์เลยครับ

อาซ้อ ชะโงกหน้ามาถาม แล้ว มังแพงมั๊ย อาตี๋

โอ่ย ซ้อ ไม่แพงเลยครับ ถูกกว่าค่าน้ำมันที่ถูกแอบดูดไปในคอก ถูกกว่ายางที่แอบไปถอดเปลี่ยนเอายางหล่อดอกมาใส่แทนซะอีก เอาแบบที่ว่า รถติดเครื่อง ถ้าไม่วิ่ง จอดตรงไหนซ้อเห็นหมดเลย

เอ่ยมาถึงตรงนี้ อาซ้อแกมีแววปล๊าบขึ้นมาในสายตา แกกวาดหางตาไปทางอาเฮียซึ่งตอนนี้ก้มหน้าก้มตาลูบคลำนาฬิกาหลายเรือนบนข้อมืออย่างไม่รู้ไม่ชี้

ลื้อจาคลำอารายนักหนา ไอ้นาฬิกาเนี่ย บอกไอ้ตือเพื่อนลื้อให้มันเอามาคืนซะมั่งนะ เพื่อนชิกหายอาราย ยืมแล้วไม่คืน เก๋าเจ๊ง 

อาตี๋ พรุ่งนี้เอามาติดรถเฮียแกก่อนเลยทุกคัน 



ไฟลุกตอผุด

 




สมัยที่ผมสอนเทคนิคการสอบสวนอุบัติเหตุด้วยเครื่องมือที่เรียกว่า Causal Tree Analysis และ Bow-Tie ซึ่งจะเปิดโปงความบกพร่องล้มเหลวของระบบการจัดการ (Management system failure) ที่มีมาเนิ่นนาน ในแบบที่แบบจำลอง Swiss Cheese Model เรียกว่า Latent Failure แทนที่จะไปสาละวนแก้ปัญหาโทษเอากับพนักงานผู้ปฏิบัติงาน แบบว่า คนขับหลับใน คนขับเผลอเรอ คนขับไม่มองทาง รถคันหน้าเบรคกระทันหัน หมาวิ่งตัดหน้า เรื่อยไปจนโทษผีสางนางไม้สิ่งที่ไม่มีตัวตนชนิดที่ว่า แยกผีสิง โค้งร้อยศพ ไปเรื่อยเปื่อย กรณีนี้ มันสะท้อนภาพของความบกพร่องในระบบการจัดการแบบชนิดที่เรียกว่า ไฟลุกตอผุดกันเลยทีเดียว


ไม่ว่าคุณจะไถไปทางไหนก็ไม่พ้นอยู่ดี ม่ะ มาลองไถๆกันดู

1.      เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ รถบรรทุกน้ำมันพุ่งชนท้ายรถพ่วงที่จอดติดไฟแดงอยู่อย่างรุนแรงใช่หรือไม่ ??  - ไถไปว่า โอโนว์ การเฉี่ยวชนครั้งนี้ไม่รุนแรงเรย (ทำเสียงอาฉีเสียงหล่อ จะได้อารมย์มากขึ้น)

2.       อ่อ เรอะ!!! งั้น ถ้าไม่รุนแรงเหตุใดน้ำมันมากมายจึงทะลักทะลายออกมานองพื้นถนน ไหลไปตามท่อระบายน้ำ และเกิดไฟลุกไหม้ในวงกว้างได้ ??? เอ่อ ครือ... ข้อนี้เรากำลังรอกองพิสูจน์หลักฐานรวบรวมข้อมูล เรายืนยันได้ว่า รถที่บรรทุกน้ำมันนั้นไม่มีการรั่วไหลชำรุดขณะเกิดเหตุ ???  ถ้าจะไถต่อให้ดูดีขึ้นก็อาจจะเอ่ยเปรยๆว่า เรากำลังสงสัยว่ามีการพยายามขโมยน้ำมันโดยกลุ่มผู้ไม่หวังดี (น่าน  เติมประเด็นให้เบี่ยงไปอีกนิด) แต่ข้อเท็จและจริงที่ปนกันก็คือ รถคันนี้บรรทุกน้ำมันใช่หรือไม่ หรือจะไถว่าเป็นรถบรรทุกน้ำหวาน เมื่อน้ำมันเกิดรั่วไหลออกมาก็แสดงว่าถังเกิดความเสียหายขณะชน ถ้าอ้างว่ามีคนพยายามขโมยน้ำมันก็ต้องมีหลักฐานพิสูจน์ได้ มีพยานรู้เห็น ไอ้ที่จะไถไปนั้น ไปไม่รอด

3.       เป็นการชนที่รุนแรง ?? ทำไมคนขับไม่เบรค  ??? อันนี้ไถไปทางไหนก็โดนทุกดอก เบรคแล้ว แต่เบรคไม่อยู่... เบรคไม่ทัน รถคันหน้าหยุดกระทันหัน ... ไม่ได้เบรคเพราะกำลังหลับใน... อ่ะ ไถไปเรื่อยๆ

4.       ถ้าอ้างว่ารถเบรคไม่อยู่ ข้อนี้ก็พิสูจน์ได้จากวัตถุพยานเลยเชียว ถ้าอ้างว่ารถคันหน้าหยุดกระทันหัน ก็ยิ่งพิสูจน์ได้จากพยาน เผลอๆอาจจะมีวงจรปิดที่บังเอิ้นบังเอิญ ปิดไม่ทัน เลยพอจะมีคลิปไว้ให้ดูกันได้ ส่วนเรื่องคนขับหลับใน ถ้าเป็นที่ประเทศออสเตรเลีย ว่าด้วยก็หมาย Chain Of Responsibility -COR รับรองได้งานนี้เถ้าแก่มีสิทธิ์ติดคุก แทนที่จะเป็นคนขับรถ แต่ที่เมืองที่ยังไม่รู้แลยว่า บิ๊กตุ่ยที่ไปสั่งปิดเหมืองทองเขา... ที่ไปทำอะไรห่วยๆไว้มากมาย ...เป็นตัวอะไรแน่ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หรือเป็นไอ้ตัวที่ยึดอำนาจประชาชนไป เมืองนี้คนที่ส่อติดคุกน่าจะเป็นคนขับซะมากกว่า ผมไม่หวังไกลว่าประเทศนี้เมืองนี้จะมีกฎหมายการขนส่งทางบกที่ไล่เบี้ยให้ผู้ประกอบการต้องมีระบบการจัดการนั่นนู่นนี่แบบเมืองนอก กลัวจะโดนไล่ไปอยู่ต่างประเทศกะเขาด้วย แต่ผมก็หวังลึกๆว่า บริษัทผู้ว่าจ้าง ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ น่าจะมีมาตรฐานการจัดการที่เป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ที่ถูกถ่ายทอดความคาดหวังไปยังผู้รับจ้างผ่านกระบวนการต่อรองกดดันด้วยระบบการบริหารสัญญาจ้างแบบจริงจัง เน้นนะครับ แบบจริงจัง

5.       มาลองดูกันสิว่า ระบบการบริหารการจัดการขนส่ง ที่กระจอกและพื้นๆที่สุดที่บริษัทกระจอกๆทุกแห่งควรจะมีนั้นมีอะไรบ้าง เอาแบบคร่าวๆนะ ไม่ต้องทุกตัวหรอก 

a.       มีระบบการบริหารความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสุขภาพ (Safety, Health Environmental Management system) บางที่ก็ย่อว่าระบบชีเมเนจเม้นท์ เอาเถอะจะชีจะเถร ก็ต้องมีกระบวนการเหล่านี้ ได้แก่ มีนโยบาย Policy  มีการวางแผน มีการดำเนินการ มีการประเมินผล และปรับปรุง นี่เป็นขั้นพื้นฐานสุดๆ กฎหมายความปลอดภัยก็บังคับไว้เป็กฎกระทรวงให้สถานประกอบการที่มีลูกจ้างมากกว่า 50 คนต้องมีไอ้ระบบชีเถรเมเนจเม้นท์ ไอ้รถคันนี้ เพื่อนผมมันแซว ว่าเป็นบริษัทเมิงเรอะ แหมอ่านชื่อไม่ทัน พวกเล่นเอาผ้าเขียวมาคลุมไว้ก่อน คุณว่าเขามีระบบที่ว่านั่นไหม มี๊!!!! ตอบเสียงสูง  ไม่มีจะไปประมูลวิ่งน้ำมันให้บริษัทนี้ได้ยังไง เอาเป็นว่า เชื่อว่ามี แต่ว่า เขามีมาตรฐานไหม โอ๊ยยยยยคู้น  เรื่องนี้มันคงต้องคุยกันยาว ว่าแต่ว่าจะเอาเรื่องไหนล่ะ เรื่องรถ เรื่องถัง เรื่องคน เรื่องเวลาหลับเวลานอน มีหมดแหละ!!!! แต่ว่า แหะๆๆๆ มันจะให้เป๊ะไปทุกเรื่องมันก็ไม่ได้หรอกนะคุณ ... หงึกๆๆๆๆ

b.       ระบบการจัดการเรื่องรถ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมาตรฐานยาง มาตรฐานรถ มาตรฐานถัง ปั๊ม ท่อ โอย!!!! ก็อย่างที่บอก ...เรื่องนี้มันเป็นเรื่องเงินเรื่องทอง เรื่องต้นทุน ผมว่าบริษัทไหนๆเขาก็ซีเรียส ยกเว้น!!!! บริษัทที่คนเขาเอารถมาร่วมวิ่ง แบบว่า คนขับกับเมีย มาทำงานเป็นคนขับรถเด็กติดรถ และเป็นเจ้าของรถ แบบนี้จะไปบังคับกันมากๆก็ไม่ได้หรอก คุณเข้าใจไหม??? หงึกๆๆๆๆๆๆ

c.       ระบบการจัดการคนขับ โอ่ย คู้นๆๆๆๆๆ หาคนขับรถบ้านเราไม่ใช่หากันง่ายๆนา เดี๋ยวเข้า เดี๋ยวออก ขับทางไกล ทางเสี่ยงๆ ไม่มีใครอยากวิ่ง เดี๋ยวนี้คนขับรถ จ้างไม่แพงหรอก แต่เขาก็ได้รายได้จากจำนวนเที่ยวมั่งอะไรมั่ง แบบว่าทำมากได้มาก ขับมากได้มาก จะให้มามัวนอนตามที่กฎหมายบังคับจะไปพอกินอาราย ส่วนมากเขาก็รู้กันหมดแหละ ขึ้นรถปั๊บ ใครจะไปโง่รูดใบขับขี่ !!! ขืนรูดก็รู้สิว่าใครขับ !! อ้าวแบบนี้ขนส่งเขาไม่รู้หรอกรึ ??? รู้ สิ แต่ไม่รู้ว่าใครขับ ใครเร็ว.... อ้าวเรอะ แล้วเขาไม่มาตรวจกันหรอกเรอะ???  ....ยิ้มแหยๆ ....ตรวจครับ ...โต๊ะนึง จบ!!

ที่พูดๆมานั้น ผมพูดกับตัวเอง ด้วยความหงุดหงิด ในวันที่ผู้บริหารของบริษัทแห่งหนึ่งมาขอให้เตรียมข้อมูลสำหรับสอนผู้ประกอบการขนส่งผลิตภัณฑ์ และถามแล้วถามอีกว่าจะพูดอะไรให้พวกเขาฟัง จะออกไปในแนวโน้มน้าว หรือออกแนวบังคับให้ทำตาม...

ถ้าผู้ที่เกี่ยวข้องในระบบการบริหารจัดการ ไม่ใช้ความพยายามอย่างสมเหตุสมผล ในการที่จะควบคุมป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางถนนอย่างเข้มงวด แบบนี้....ก็จะเป็นไปในอีหรอบนี้ชั่วนิจนิรันดร.... 

อยู่ๆกันป่ะ  เฮ้อ จบดีกว่า เครียดจังเนอะไอ้หมีเนอะ ม่ะ มาให้พ่อหอมที ฟ๊อดดดดดดด.... อ่ะ เพลงม่ะ วัน ทู ทรี โฟร์ ไคว้ ....


ประวัติศาสตร์เซฟตี้

 Abraham Maslow พูดถึงเซฟตี้ไว้เมื่อปี 1943 ว่าลำดับขั้นของความต้องการของคนนั้นมีอยู่เป็นลำดับๆ เริ่มตั้งแต่ความต้องการพื้นฐาน อย่างอาหาร อา...