วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2558

โรคไอคร่อกแคร่กของแขกโพกผ้า

 

 

 

สองสามวันมานี่มีข่าวสะเทือนขวัญแฟนๆวงบอยแบนแดนกิมจิ และบรรดาพี่ป้าน้าอาที่ติดซีรี่ส์เกาหลีอย่างเอาเป็นเอาตาย เป็นห่วงว่าพวกเขาจะได้รับอันตรายจากการแพร่ระบาดของโรคชื่อแปลกๆ ที่เรียกว่า เมอร์ส

MERS- ย่อมาจากคำว่า Middle East Respiratory Syndrome

อาการเจ็บป่วยในระบบทางเดินหายใจของคนตะวันออกกลาง หรือโรคไอคร่อกไอแคร่ก ไอกระด๊อกไอกระแด๊กของแขกตะวันออกกลาง ซึ่งสำนักควบคุมโรคสหรัฐอเมริการ หรือ CDC ให้ข้อมูลไว้ว่า เชื้อที่เป็นต้นเหตุของโรคนี้ มันคือ ไวรัสโคโรน่า บางคนอาจจะเริ่มกังวลแล้วสิว่าอีกหน่อยคงมี ไวรัสอัลติ๊ด ไวรัสวีออส ไวรัสแคมรี่  เพราะฉะนั้น ถ้าจะเรียกโรคที่ระบาดในตะวันออกกลาง เขาจึงเรียกมันว่า MERS-CoV (Middle East Respiratory Syndrome- Corona Virus)
เชื้อไวรัสตัวนี้มีฤทธิ์ต่อปอดและทางเดินหายใจ  ผู้ที่ติดเชื้อจะมีอาการ ไข้ ไอโคร่กเคร่ก และหายใจขัด บางรายมีอาการท้องเสีย คลื่นใส้ อาเจียนร่วมด้วย บางรายมีอาการคล้ายเป็นหวัดธรรมดา พอจะใช้อ้างลาป่วยไม่มาทำงานได้ บางรายไม่แสดงอาการเลยก็มี จากสถิติ พบว่าผู้ป่วย 10 ราย จะเสียชีวิตไป 3-4 ราย โรคนี้พบครั้งแรกที่ประเทศจอร์แดน และแพร่ระบาดในซาอุดิอาระเบีย ตลอดจนประเทศในแถบตะวันออกกลางระหว่างปี ค.ศ. 2012 ระยะฟักตัวของเชื้อประมาณ 5-6 วัน หรืออาจจะอยู่ในช่วง 2-14 วัน

เชื้อไวรัสโคโรน่า ติดต่อได้จากการสัมผัสโดยตรงกับผู้ติดเชื้อ เช่นสัมผัสน้ำมูก น้ำลาย เสลด สารคัดหลั่ง จูบจ๊วบจ๊าบกัยผู้ติดเชื้อ แบบนี้ติดชัวร์ บางคนอาจจะสงสัยว่า ถ้าเกิดผู้ติดเชื้อ ไอ โคร่กๆ เราอยู่ใกล้ๆจะติดไหม คำตอบคือ ติด เพราะเวลาไอจามแต่ละที ละอองที่กระเด็นกระดอนออกมาจากปากของผู้ป่วยก็จะลอยไปในอากาศ เราสูดเข้าไป มันก็ย่อมติดกันได้ง่าย แต่นั่นต้องใกล้มากเลยทีเดียว ตอนนี้ยังไม่ยืนยันว่าเชื้อแพร่ได้นานๆในอากาศมากน้อยแค่ไหน รอแป๊บ แพร่ได้เมื่อไหร่แล้วจะมาบอก

 
ใครบ้างที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
 
ก็บอกไปแล้วว่า โรคนี้เกิดขึ้นและแพร่ระบาดแถวๆตะวันออกกลาง
คนที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อก็คือคนที่เดินทางไปตะวันออกกลาง
อ้าว ยังงี้น้องซองจีฮอน น้องยอนจังฮู น้องรูยังป๊าค จะติดได้ยังงัย


มีรายงานด้วยว่า อูฐก็พบเชื้อไวรัสโคโรน่าด้วยเช่นเดียวกัน ในรายงานของ CDC จึงมีคำแนะนำสำหรับพวกที่สัมผัสอูฐ ควรล้างไม้ล้างมือให้สะอาด หลีกเลี่ยงการกอดจูบลูบคลำอูฐ พวกที่อยู่กลางทะเลทรายนานๆอาจจะเผลเห็นอูฐสวยเข้าก็ได้ ใครจะไปรู้ เดี๋ยวนี้มีโรคแปลกๆ อย่างอีโบล่า ก็เริ่มมาจากลิง โรคเอดส์ก็ว่ากันว่าเริ่มจากมีคนไปแอบอิอ๊ะ อะซี๊ดอะซ๊าดกะลิงแล้วเอามาแพร่ระบาดในคน โรคไข้หวัดนก ก็เริ่มจากตัวอะไรไม่รู้ โรคซาร์ส ก็มาทำนองเดียวกัน เอาเป็นว่า หมั่นล้างมือหลังสัมผัสกับสัตว์ชนิดต่างๆ รวมถึงคนด้วย

 

ประเทศไหนบ้างที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด

คำตอบคือ ทุกประเทศที่ดัดจริต ไม่โปร่งใส ไม่เอาจริง ผู้คนเห็นแก่ตัว ขุนนางชั่วครองเมือง เห็นแต่เรื่องเศรษฐกิจ ปกปิดการพบผู้ติดเชื้อ ไม่มีความน่าเชื่อถือในการกักกันโรค บริโภคอาหารดิบๆสุก ผู้คนมีความสุขในการไอโคร่กเคร่กในที่สาธารณะโดยไม่มีผ้าปิดปากปิดจมูก  ถูกกดดันให้มาทำงานทั้งๆที่เป็นหวัดขี้มูกยืด สรุป คือประเทศที่ไร้ระบบในการจัดการการแพร่ระบาดในระดับที่เรียกว่า Pandemic พูดไปก็เปลืองกระดาษ เอาเป็นว่า รักษาสุขนิสัยส่วนตัว กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ อย่าถือวิสาสะ ใช้สิ่งของร่วมกับคนอื่น ใช้แฟนร่วมกับคนอื่น ไม่สบายก็ลางาน ปิดปากปิดจมูกนอนเล่นเฟสอยู่บ้าน แค่นี้ก็สกัดการแพร่เชื้อไปได้มากโข จิตสำนึกสาธารณะที่ดีจะป้องกันโรคจำพวกนี้ได้
ข้อมูลเพิ่มเติมหาอ่านเอาเองที่ http://www.cdc.gov/coronavirus/mers/index.html
ษมน รจนาพัฒน์  4 June 2015

ประวัติศาสตร์เซฟตี้

 Abraham Maslow พูดถึงเซฟตี้ไว้เมื่อปี 1943 ว่าลำดับขั้นของความต้องการของคนนั้นมีอยู่เป็นลำดับๆ เริ่มตั้งแต่ความต้องการพื้นฐาน อย่างอาหาร อา...